สตูล - อุทยานแห่งชาติตะรุเตา หาทางออกเตรียมติดตั้งสัญญาณเตือนจุดเสี่ยงบริเวณน้ำตื้นหน้าชายหาดบนเกาะหลีเป๊ะ ป้องกันนักท่องเที่ยวลงเล่นบริเวณน้ำตื้นทำลายปะการัง
วันนี้ (19 ก.พ.) ทุกครั้งที่น้ำทะเลลด เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ตะรุเตา ที่เฝ้าระวังชายหาดต้องคอยเดินสำรวจ และเตือนนักท่องเที่ยวที่ฝ่าฝืนการทำผิดข้อห้ามของอุทยานฯ ด้วยการเดินเหยียบปะการังน้ำตื้นหน้าชายหาด บนเกาะหลีเป๊ะ จะเป็นการเฝ้าระวัง เตือน หากพบดื้อรั้นก็จะจับปรับทันที โดยจะพบว่ามีนักท่องเที่ยวที่กระทำผิดเพิ่มมากขึ้น โดยอ้างว่าไม่รู้ ไม่มีใครบอก โดยพฤติกรรมที่พบเห็น คือ การจับปลานีโม่ ปลาดาวกลับไปใส่แก้วตั้งไว้หัวนอน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อระบบนิเวศทางทะเลของเกาะหลีเป๊ะ หมู่ที่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล
จากปัญหาที่เกิดขึ้น ทางอุทยานฯ ตะรุเตา กำลังเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน จากการกล่าวอ้างว่าไม่รู้ถึงข้อปฏิบัติในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ลงไปดำน้ำตื้น และเดินเล่นช่วงน้ำลด เหยียบย่ำแนวปะการังน้ำตื้นบริเวณหน้าชายหาดซันไรซ์ ซันเซท และพัทยาบีช (เกาะหลีเป๊ะ) หมู่ที่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล แม้จะมีแผ่นป้ายคำเตือน ข้อห้าม และธงแดงปักไว้เป็นสัญลักษณ์ห้ามลงเล่นน้ำช่วงน้ำลดในบริเวณต้องห้ามปะการัง
แม้จะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะนักท่องเที่ยวเหล่านี้ไม่ใช่กลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ที่จะช่วยดูแล หรือรักษาทรัพยากรท้องทะเล เห็นได้จากการถูกจับปรับครั้งแล้วครั้งเล่า แม้จะมีการจับปรับตั้งแต่ 500-1,500 บาท ก็ยังพกผู้กระทำผิดจำนวนมาก รวมทั้งการมีปากเสียงกันจนทำงานยาก
นายจินดา ศรีสุพพัตพงษ์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา กล่าวว่า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในส่วนของอุทยานฯ เองก็ไม่ได้นิ่งเฉย พยามหาทางออกทั้งในเรื่องการติดแผ่นป้ายตามชายหาดทุกครั้งที่มีน้ำลด ห้ามลงเล่นน้ำดำน้ำจุดที่มีปะการังน้ำตื้น รวมทั้งปักธงแดง ก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวที่ฝ่าฝืน และดื้อรั้นที่จะลงไปเล่น เกิดมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่บ่อยครั้ง กลายเป็นปัญหาทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากในการปกป้องทรัพยากร ดังนั้น ทางอุทยานฯ ได้มีการพูดคุยเพื่อหาทางออก หลังรอทีมวิศวะ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในความเป็นไปได้ในการติดตั้งเครื่องเตือนอัตโนมัติ ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ หรือทำลายทรัพยากรที่หวงห้าม เพื่อจับปรับดำเนินคดีทางกฎหมายทันที เพื่อช่วยแก้ปัญหาอีกทาง
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาที่ต้นทาง ทั้งโรงแรม หรือบริษัททัวร์ต้องการให้มีการให้ความรู้ คำชี้แนะถึงพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อทรัพยากรทางทะเล เพื่อช่วยกันปกป้องรักษา เพราะคือหัวใจสำคัญ หากต่างคนต่างไม่ช่วยกัน หวังกอบโกยธรรมชาติหมดแล้วใครจะมาท่องเที่ยว