ยะลา - นักเรียนโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บางปอประชารักษ์ นราธิวาส ศึกษาดูการเลี้ยงผึ้งชันโรงในอำเภอเบตง เพื่อนำความรู้ไปสู่อาชีพ และสอดคล้องกับการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯนำมาใช้ในชุมชนของนักเรียน
วันนี้ (9 ก.พ.) ที่วิสาหกิจชุมชน ฟาร์มผึ้งจิ๋ว (ผึ้งชันโรง) ครูรวิน เลขที่ 100/7 หมู่ที่ 7 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา นางเจ๊ะรอมล่า หะยีอาท ครูโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บางปอประชารักษ์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำนักเรียน จำนวน 70 คน เข้าชมและเรียนรู้วิธีการเลี้ยงผึ้ง และแมลงเศรษฐกิจ และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผึ้งเป็นสบู่ เพื่อนำความรู้ไปสู่อาชีพ และสอดคล้องกับการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯ นำมาใช้ในชุมชนของนักเรียน
ผึ้งชันโรงแมลงตัวเล็กๆ ที่ให้ประโยชน์มากมายเกินตัว และเป็นแมลงที่ปรับตัวได้เก่ง โดยส่วนใหญ่จะอาศัยตามโพรงต้นไม้ โพรงใต้ดิน และไม่ชอบย้ายที่อยู่อาศัย และน้ำผึ้งที่ได้จากผึ้งชันโรงนั้นมีราคาที่สูงกว่าน้ำผึ้งจากผึ้งทั่วไป เพราะเชื่อว่าน้ำผึ้งที่ได้จากชันโรงมีสรรพคุณทางยา
ด้วยเหตุนี้โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บางปอประชารักษ์ จึงได้นำนักเรียนมาดูการเลี้ยงผึ้งชันโรง เพื่อนำความรู้ไปสู่อาชีพ และสอดคล้องกับการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯ ให้กับชุมชนของนักเรียน และโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บางปอประชารักษ์ จะ เป็นโรงเรียนนำร่องตัวอย่างในการเลี้ยงผึ้งชันโรง โดยโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บางปอประชารักษ์ จะสนับสนุนให้นักเรียนและชุมชนของนักเรียน เลี้ยงผึ้งชันโรง
โดย นายรวิน กัยวิกัยมาศ อดีตครูโรงเรียนเทศบาล 4 เทศบาลเมืองเบตง กล่าวว่า การเพาะเลี้ยงผึ้งชันโรงเพื่อจำหน่ายนั้น ผู้เพาะเลี้ยงมักจะพบกับปัญหาในขั้นตอนการแยกรังเป็นหลัก ปัญหานั้นจะเริ่มมาจากความเข้าใจผิดของผู้เพาะเลี้ยงว่า เวลาที่ต้องการแยกรังชันโรง แค่ใส่ชันโรงตัวอ่อน หรือเซลล์ตัวอ่อนของชันโรงเข้าไปในรังใหม่เพียงแค่นั้นเป็นอันเสร็จสิ้นพิธี โดยไม่ต้องไปทำอะไรในรังใหม่เพราะ ชันโรงจะเจริญเติบโตในรังใหม่กับ สิ่งแวดล้อมใหม่ได้เองโดยอัตโนมัติ
จนเวลาผ่านมาได้สักระยะผู้เพาะเลี้ยงก็จะพบว่า ตัวอ่อนของชันโรงจะอาศัยอยู่ในรังได้ไม่นาน เนื่องจากในรังไม่มีสังคมที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของชันโรง “สังคม” ในที่นี้หมายถึง โดยทั่วไป ชันโรง 1 รังจะต้องประกอบด้วยตัวนางพญา, เซลล์ตัวอ่อน, ตัวเต็มวัย และตัวเต็มวัยของผึ้งงาน นอกจากนั้นผู้เพาะเลี้ยงยังต้องแน่ใจด้วยว่าใกล้ๆ รังจะต้องมีแหล่งอาหาร ไม่มีความชื้นมากจนเกินไป และต้องไม่มีมด ศัตรูสำคัญของชันโรง ด้วย
สุดท้าย ครูรวิน ยังได้รับรองว่า หากนักเรียนที่มาดูการเลี้ยงผึ้งชันโรง หากทำการแยกรังชันโรงถูกวิธีดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ชันโรงนั้นๆ จะมีช่วงชีวิตอยู่ได้นานถึง 30 -40 วัน และจำหน่ายได้รังละ 500 บาทเลยทีเดียว กล่าวได้ว่า หากนักเรียนมีความเข้าอกเข้าใจ ชันโรง การเพาะเลี้ยงชันโรงก็มีทำเป็นอาชีพสร้างรายได้ไม่ยากเลย
นางเจ๊ะรอมล่า หะยีอาท ครูโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกจากการนำนักเรียนมาดูการเลี้ยงผึ้งชันโรงในครั้งนี้แล้ว ทางผู้บริหารโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บางปอประชารักษ์ นราธิวาส ได้วางแผนในการจัดอบรมการแปรรูปสบู่น้ำผึ้งชันโรง ซึ่งการเลี้ยงผึ้งชันโรงจะทำให้นักเรียนและชุมชนมีรายได้และสามารถยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชนให้ดีขึ้นด้วย