ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระดมความคิดเห็นทุกภาคส่วนในการจัดการแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทางทะเล ให้เป็นไปตามความสามารถในการรองรับได้ หาแนวทางแก้ปัญหานักท่องเที่ยวล้นเกาะสิมิลัน ติดตั้งท่าเทียบเรือลอยน้ำกระจายนักท่องเที่ยวไปเกาะใกล้เคียง สร้างศูนย์บริการลอยน้ำยังแก้ไม่ได้ กำหนดโควตา เก็บค่าธรรมเนียมสูงขึ้น
วันนี้ (6 ก.พ.) นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฎิบัติการการจัดการแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทางทะเล ให้เป็นไปตามความสามารถในการรองรับได้ โดยมี ดร.ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผศ.ดร.ดรรชนี เอมพันธุ์ ภาควิชาอนุรักษวิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายดำริ จิตต์ใจฉ่ำ ผู้อำนวยการส่วนจัดการการท่องเที่ยวและนันทนาการ พร้อมทั้ง นายสุพจน์ เพริดพริ้ง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทางทะเล ตัวแทนผู้ประกอบกิจการในอุทยานแห่งชาติเข้าร่วมในงาน เพื่อระดมความเห็น และร่วมอภิปรายถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวทางทะเลให้เป็นไปตามความสามารถในการรองรับได้ ณ โรงแรมเพิร์ล ภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบัน ปัญหาจากการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติทางทะเลเริ่มเพิ่มมากขึ้น ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งอุทยานแห่งชาติหลายแห่งโดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติทางทะเลกำลังประสบปัญหาจากความแออัดของนักท่องเที่ยว ปัญหาคราบน้ำมันจากเรือโดยสาร ปัญหาการจัดการขยะ หรือแม้กระทั่งผลกระทบในการดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งยากต่อการฟื้นฟูในระยะเวลาอันสั้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการร่วมกันหาแนวทางในการจัดการการท่องเที่ยวที่นำไปสู่ความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม จึงได้การจัดประชุมเรื่อง “การจัดการแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทางทะเลให้เป็นไปตามความสามารถในการรองรับได้” เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งองค์กร และผู้ประกอบการให้เข้าใจสถานการณ์การท่องเที่ยวที่แท้จริง และร่วมกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อจะได้เป็นแนวทางในการจัดการการท่องเที่ยวที่นำไปสู่ความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป
นายทรงธรรม กล่าวว่า การจัดการแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทางทะเลให้เป็นไปตามความสามารถในการรองรับได้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่ต้องมีการดำเนินการไปควบคู่กับการจัดให้มีการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว เพื่อให้ทันต่อการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ในขั้นต้นมุ่งเน้นพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล ซึ่งบางแห่งมีผลการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวแล้ว ทั้งนี้ การจัดประชุมดังกล่าวยังหวังให้ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว และสอดคล้องต่อแผนปฎิรูปอุทยานแห่งชาติ 20ปี ที่เน้นการดูแลรักษาทรัพยากรการท่องเที่ยวและการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอีกด้วย
นายทรงธรรม ยังกล่าวถึงมาตรการในการแก้ปัญหานักท่องเที่ยวล้นเกาะสิมิลัน จ.พังงา ว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจพื้นที่ ทำให้ทราบว่านักท่องเที่ยวล้นบางช่วงเวลาเท่านั้น คือ ในช่วงเวลา 11.00-14.00 น.ซึ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวขึ้นไปพักผ่อน และรับประทานอาหารเที่ยงบนเกาะ ส่วนช่วงเวลาอื่นๆ นักท่องเที่ยวจะเข้ามาตามปกติทั่วไปวันละประมาณ 2,000-3,000 คน
โดยกรมอุทยานฯ ได้วางมาตรการในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ไว้แล้ว และกำลังจะดำเนินการในเร็วๆ นี้ เริ่มตั้งแต่มาตรการในการกระจายนักท่องเที่ยวจากเกาะจากเกาะ 4 และเกาะ 8 ไปยังเกาะอื่นในหมู่เกาะสิมิลัน เช่น เกาะงวงช้าง เป็นต้น โดยการติดตั้งท่าเรือลอยน้ำ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อปะการัง ร่วมไปถึงการลงทุนสร้างศูนย์ลอยน้ำที่บริเวณหน้าเกาะสิมิลัน
เพื่อให้นักท่องเที่ยวพักรอบนศูนย์บริการลอยน้ำในช่วงที่นักท่องเที่ยวเต็มเกาะ โดยจะดำเนินการเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จในวันที่ 31 มี.ค.นี้ จะดำเนินการในบริเวณเกาะที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น ที่เกาะสิมิลัน เกาะพีพี และอ่าวพังงา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ รวมไปถึงการกำหนดโควตานักท่องเที่ยวเป็นช่วงเวลาในการขึ้นเกาะ
สุดท้ายหากพิจารณาแล้วเห็นว่า ทรัพยากรทางทะเลได้รับความเสียหายจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากเกินไป อาจจะมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นเกาะ รวมไปถึงการเพิ่มค่าธรรมเนียมในการขึ้นเกาะ เพื่อรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรทางทะเลต่อไป
ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาตินั้น ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวมาก โดยได้มอบนโยบายในเรื่องการจัดรถกู้ชีพ จัดซื้อเรือกู้ภัย ร่วมมือกับทางแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ในการช่วยเหลือดูแลนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากการเข้ามาท่องเที่ยวในเขตอุทยาน และหากมีการบาดเจ็บสาหัสสามารถเรียกได้ที่หมายเลข 1669
นอกจากนี้ ทางกรมอุทยานฯ จะนำระบบการขายตั๋วเข้าอุทยานในลักษณะของ E-Ticket ในทุกอุทยาน แต่ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณ จะเริ่มทางทะเลที่เกาะสิมิลัน เกาะพีพี อ่าวพังงา เพื่อแก้ปัญหาความไม่โปร่งใส
ขณะที่การประชุมดังกล่าวยังมีการร่วมอภิปรายในหัวข้อสถานการณ์ท่องเที่ยวในฝั่งอันดามัน ตัวอย่างและทางเลือกในการจัดการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามความสามารถในการรองรับได้ โดยมีนายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ดร.ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ผศ.ดร.ดรรชนี เอมพันธุ์ ภาควิชาอนุรักษวิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายดำริ จิตต์ใจฉ่ำ ผู้อำนวยการส่วนจัดการการท่องเที่ยวและนันทนาการ พร้อมทั้งตัวแทนผู้ประกอบกิจการในอุทยานแห่งชาติ ร่วมเสวนา อีกทั้งการแบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านอุทยานแห่งชาติทางทะเล ภาคเอกชน เช่น ผู้ประกอบการประกอบกิจการดำน้ำในอุทยานแห่งชาติ มาร่วมกันประชุมระดมความคิดเห็น ก่อนที่จะมีการสรุปผลการประชุมเพื่อนำผลการศึกษามาวางกรอบแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป