xs
xsm
sm
md
lg

สลด! พยศพชายหนุ่มนอนกอดขวดเหล้าดับอนาถ หลังทะเลาะรุนแรงกับเพื่อนร่วมวง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - ชายวัย 40 นอนกอดขวดเหล้าตายอนาถริมถนนสายโคกยูง ม.8 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง หลังทะเลาะมีปากเสียงรุนแรงกับเพื่อนร่วมวง ก่อนถูกทำร้ายใช้ของแข็งตีหัว และตามมาแทงซ้ำจนเสียชีวิต

วานนี้ (25 ม.ค.) ร.ต.อ.มังกร ชัยเพชร รองสารวัตรเวร (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุมีคนถูกแทงเสียชีวิตริมถนนสายโคกยูง ม.8 ต.โคกหล่อ หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ ผกก. พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สอบสวน) พร้อมกำลังชุดสืบสวน และ ตร.ชุดสายตรวจ 20 พร้อมด้วย นายนิยม นาทุ่งนุ้ย กำนัน ต.โคกหล่อ ฝ่ายปกครองท้องที่ แพทย์เวร รพ.ตรัง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านนับร้อยกำลังยืนจับกลุ่มมุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบร่างผู้ตาย ทราบชื่อคือ นายนิวัฒน์ เกตุทอง อายุ 42 ปี อาชีพเป็นช่างเคาะอู่ทำสีรถยนต์แห่งหนึ่งใน อ.เมืองตรัง อยู่บ้านเลขที่ 11/13 ม.8 บ้านโคกยูง อ.เมืองตรัง สภาพศพนอนหงายท้อง มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่บริเวณลำคอขวา 1 แผล ชายโครงซ้าย 1 แผล และมีรอยแผลแทงที่บริเวณศีรษะ คาดว่าโดนของแข็งกระแทกศีรษะอย่างรุนแรงเลือดไหลอาบใบหน้า
 

 
โดยสภาพศพอยู่ในชุดทำงานสวมเสื้อยืดสีดำแขนยาว นุ่งกางเกงลายพรางแบบทหาร สวมรองเท้าคอมแบต นอนกอดขวดเหล้าเหลืออยู่ครึ่งแบนอย่างน่าอนาถใจ ตรวจสอบในกระเป๋ากางเกงพบยาเส้น ใบจาก และไฟแช็ก ห่างจากศพประมาณ 5 เมตร พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีฟ้าคาดดำ หมายเลขทะเบียน ขนธ 889 ภูเก็ต จอดอยู่ในสภาพปกติ ด้านหน้าตะกร้ารถมีสัมภาระบรรทุกอยู่เต็ม ทราบว่าเป็นรถของผู้ตาย

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุหลังเลิกงาน ผู้ตายซื้อเหล้ามาดื่มกับเพื่อนรวม 5 คน นั่งตรงม้าหินหน้าบ้านเลขที่ 2 ม.8 บ้านโคกยูง ต.โคกหล่อ ยังพบจานกับแกล้มกระจัดกระจายอยู่เกลื่อน และมีร่องรอยการราดน้ำบนพื้นเจิ่งนองไปทั่วบริเวณ จากจุดที่นั่งม้าหินห่างจุดพบศพมาบนถนนประมาณ 10 เมตร 

สันนิษฐานว่า น่าจะมีปากเสียงรุนแรงกับเพื่อนร่วมวงก่อนถูกทำร้ายใช้ของแข็งตีหัวและตามมาแทงซ้ำจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายขรรค์ชัย หรือหลวงแดง ช่วยสงค์ เจ้าของบ้านไปสอบปากคำเพื่อสอบสวนหาพยานหลักฐาน และแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณเส้นทางเกิดเหตุ เร่งติดตามกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 


กำลังโหลดความคิดเห็น