กระบี่ - เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน จัดเวที ค.0 ให้ความรู้ประชาชนไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ยืนยันไม่ไปสังคายนาเวทีแน่นอน
เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (24 ม.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมบุญสยาม อ.เมือง จ.กระบี่ เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ได้จัดเวทีเสวนา หัวข้อกระบี่อันดามันเป็นแหล่งท่องเที่ยวของโลกหรือแหล่งมลพิษถ่านหิน (ค.0) การกำหนดยุทธศาสตร์กระบี่อันดามันในภาวะปัจจัยคุกคาม โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เข้าร่วมเวทีกว่า 500 คน โดยมี พล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เข้าร่วมสังเกตการณ์ และดูแลความสงบเรียบร้อย
โดยบนเวทีมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิร่วมให้ความรู้ เช่น นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ นายกฤษ สีฟ้า ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภาคใต้และฝั่งอันดามัน นายประสิทธิชัย หนูนวล ประธานเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน นายวัฒน เริงสมุทร นายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ดร.เลิศชาย สิริชัย นักวิชาการสังคมศาสตร์ นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ ประธานสภาเกษตรจังหวัดกระบี่ นายอธิราษฎ์ ดำดี ผู้เชี่ยวชาญด้านปาล์มน้ำมัน
นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนกระบี่ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียในการกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (หรือ ค.1) โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนกระบี่ (ส่วนขยาย ครั้งที่ 1) ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งในขั้นตอนการศึกษาและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและด้านสุขภาพ (EHIA) จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2561 ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่
นายอมฤต กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยเห็นด้วยต่อโครงการสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ถึงแม้ว่า กฟผ.จะโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นถ่านหินสะอาดก็ตาม เนื่องจากสวนทางต่อยุทธศาสตร์ของจังหวัด เมืองสีเขียว และที่สำคัญ ถ่านหินไม่ได้สะอาดจริง และที่ผ่านมา การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ และท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว ได้ถูกยกเลิกมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยคำสั่งของนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.พร้อมกับให้ตั้งคณะกรรมการไตรภาคี หรือกรรมการ 3 ฝ่าย ศึกษาความเป็นไปได้ของการก่อสร้าง
ผลจากการสรุปของกรรมการไตรภาคี ให้ กฟผ.ชะลอไว้ก่อน แต่ยังไม่ทันไร ทาง กฟผ.ก็ได้หยิบยกผลการศึกษาเก่ากลับมาทำการรับฟังความคิดเห็นใหม่อีกครั้ง เหมือนกับว่าเป็นการจุดชนวนความขัดแย้งขึ้นมาใหม่ โดยไม่สนใจยุทธศาสตร์จังหวัดกระบี่ และข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ทั้งที่ทางออกมีให้เลือกหลายแนวทาง ทั้งการเปิดเวทีกลางขึ้นมา โดยให้ผู้เห็นต่างไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ผู้สนับสนุนโรงไฟฟ้า และ กฟผ.แสดงความคิดเห็นกันก่อน เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็เดินไปตามแนวทางดังกล่าว เชื่อว่าความขัดแย้งไม่เกิดอย่างแน่นอน
นายอมฤต กล่าวด้วยว่า ฝ่ายคัดค้านไม่เคยปฏิเสธโรงไฟฟ้า แต่ต้องไม่ใช้ถ่านหิน แต่ว่าข้อเสนอของฝ่ายคัดค้านพลังงานทางเลือกที่มีอยู่จำนวนมากในกระบี่ ไม่เคยได้รับการพิจารณา เหมือนกับว่าการทำ ค.1 ที่จะถึงนี้เป็นการตอกย้ำสิ่งที่ผิดพลาดของ กฟผ.มาตลอด และในวันที่ 28 นี้ กฟผ.ไม่ต้องกลัวว่าฝ่ายคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินจะไปล้มเวที เพราะพวกเราได้คุยกันแล้วจะไม่ให้ความสำคัญต่อเวที ค 1 ที่จะเกิดขึ้น และขอความกรุณาอย่าเรียกพวกเราว่าเอ็นจีโอ หรือคนต่างด้าว เพราะพวกที่ต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินคือ คนที่ได้รับผลกระทบจริงๆ
