ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต คาดโทษผู้ประกอบการ พบปล่อยปละละเลยพนักงานขนกระเป๋าทำผิดซ้ำซาก อาจถึงขั้นยกเลิกสัญญา ย้ำจะต้องมีความจริงใจในการแก้ปัญหา เพราะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ความเป็นเมืองท่องเที่ยว และชื่อเสียงประเทศ
นายเพชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวถึงการแก้ไขปัญหากรณีเกิดเหตุพนักงานขนกระเป๋าของบริษัทที่เข้ามารับช่วงในการบริหารจัดการ ขโมยทรัพย์สินในกระเป๋าของผู้โดยสาร และคลังสินค้า ซึ่งล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ร่วมกับตำรวจ สภ.สาคู ตำรวจท่องเที่ยว ทหาร จับกุมได้พร้อมของกลาง และมีการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก ว่า
ในส่วนของท่าอากาศยานภูเก็ต ไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น มีการสุ่มตรวจ และเฝ้ารับกุมตลอดเวลา ที่ผ่านมา มีการดำเนินการอย่างเข้มงวดแต่ก็ยังมีการกระทำความผิดอยู่ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปเข้มงวดในจุดที่ มีการขนกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ จะมีเหตุเกิดขึ้น ทำกลุ่มคนที่ทำความผิดเปลี่ยนไปก่อเหตุในจุดที่เป็นคลังสินค้าแทน ซึ่งล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบ และจับกุมพนักงานที่ก่อเหตุดำเนินคดีไปแล้ว 3 ราย
นายเพชร กล่าวต่อไปว่า ในการดำเนินการเพื่อป้องกันนั้นในส่วนของการท่ามีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม มีการจัดชุดผสมร่วมออกตรวจตรวจ และสุ่มตรวจตลอดเวลา ซึ่งชุดตรวจผสมร่วมมีทั้งเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยาน ตำรวจภูธร ตำรวจท่องเที่ยว ทหารเรือ ทหารบก และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นการสนธิกำลังร่วมกันทำงาน ที่ผ่านมา การดำเนินการสามารถทำได้ผลในระดับหนึ่ง สามารถลดปัญหาในบางจุดไปได้ แต่ก็ยังพบการกระทำความผิดอยู่
เพราะฉะนั้น ถ้ายังมีการกระทำความผิดของพนักงานในส่วนของผู้ประกอบการที่เข้ามาทำงานในสนามบินภูเก็ตอยู่ ทางท่าอากาศยานภูเก็ตเองก็จะต้องเรียกในส่วนของผู้ประกอบการทุกรายมาทำความเข้าใจ และร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างร้านแรง รวมทั้งเป็นการทำลายชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต และประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ในส่วนของผู้ประกอบการเองจะต้องมาร่วมรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และ จะต้องแก้ปัญหาในการรับคนเข้าทำงาน เพราะฉะนั้น ทางบริษัทจะต้องมาร่วมกำหนดมาตรการในการดำเนินการร่วมกันในการแก้ปัญหา
อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการพูดคุยแล้วยังไม่มีการแก้ปัญหา ปล่อยให้พนักงานทำผิด มีเหตุเกิดขึ้นซ้ำซากก็อาจจะต้องมีการพิจารณาเรื่องเงื่อนไขในสัญญา เพราะในร่าง TOR จะมีระบุอยู่แล้วว่า จะต้องไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของท่าอากาศยาน ซึ่งจะต้องดูในรายละเอียดเรื่องนี้อีกที เพราะถ้ายังมีการกระทำความผิดก็คงจะต้องมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาดกันต่อไป
“เชื่อว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ที่ผ่านมา มีการแก้ไขปัญหากันมาโดยตลอด เพราะฉะนั้น หลังจากนี้จะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ถ้ามีเกิดขึ้นในส่วนของบริษัทที่จ้างงานคนเหล่านี้ และปล่อยให้มากระทำความผิด มาทำลายชื่อเสียงเมืองท่องเที่ยว ทำลายชื่อเสียงของประเทศก็จะต้องออกมารับผิดชอบ ไม่ใช่ปล่อยผ่าน จับกุมแล้วก็ดำเนินคดีกันไป ถ้าเป็นแบบนี้ก็แก้ปัญหาไม่จบ คนที่จ้างมาก็จะต้องมีมาตรการในการควบคุมดูแล และรับผิดชอบ เพราะถ้ายังมีเกิดขึ้นอีกหลังจากมีการพุดคุยกันแล้วก็จะต้องมีการพิจารณาเรื่องการยกเลิกสัญญาเข้ามาเป็นประเด็นหลักด้วย
นายเพชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวถึงการแก้ไขปัญหากรณีเกิดเหตุพนักงานขนกระเป๋าของบริษัทที่เข้ามารับช่วงในการบริหารจัดการ ขโมยทรัพย์สินในกระเป๋าของผู้โดยสาร และคลังสินค้า ซึ่งล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ร่วมกับตำรวจ สภ.สาคู ตำรวจท่องเที่ยว ทหาร จับกุมได้พร้อมของกลาง และมีการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก ว่า
ในส่วนของท่าอากาศยานภูเก็ต ไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น มีการสุ่มตรวจ และเฝ้ารับกุมตลอดเวลา ที่ผ่านมา มีการดำเนินการอย่างเข้มงวดแต่ก็ยังมีการกระทำความผิดอยู่ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปเข้มงวดในจุดที่ มีการขนกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ จะมีเหตุเกิดขึ้น ทำกลุ่มคนที่ทำความผิดเปลี่ยนไปก่อเหตุในจุดที่เป็นคลังสินค้าแทน ซึ่งล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบ และจับกุมพนักงานที่ก่อเหตุดำเนินคดีไปแล้ว 3 ราย
นายเพชร กล่าวต่อไปว่า ในการดำเนินการเพื่อป้องกันนั้นในส่วนของการท่ามีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม มีการจัดชุดผสมร่วมออกตรวจตรวจ และสุ่มตรวจตลอดเวลา ซึ่งชุดตรวจผสมร่วมมีทั้งเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยาน ตำรวจภูธร ตำรวจท่องเที่ยว ทหารเรือ ทหารบก และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นการสนธิกำลังร่วมกันทำงาน ที่ผ่านมา การดำเนินการสามารถทำได้ผลในระดับหนึ่ง สามารถลดปัญหาในบางจุดไปได้ แต่ก็ยังพบการกระทำความผิดอยู่
เพราะฉะนั้น ถ้ายังมีการกระทำความผิดของพนักงานในส่วนของผู้ประกอบการที่เข้ามาทำงานในสนามบินภูเก็ตอยู่ ทางท่าอากาศยานภูเก็ตเองก็จะต้องเรียกในส่วนของผู้ประกอบการทุกรายมาทำความเข้าใจ และร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างร้านแรง รวมทั้งเป็นการทำลายชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต และประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ในส่วนของผู้ประกอบการเองจะต้องมาร่วมรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และ จะต้องแก้ปัญหาในการรับคนเข้าทำงาน เพราะฉะนั้น ทางบริษัทจะต้องมาร่วมกำหนดมาตรการในการดำเนินการร่วมกันในการแก้ปัญหา
อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการพูดคุยแล้วยังไม่มีการแก้ปัญหา ปล่อยให้พนักงานทำผิด มีเหตุเกิดขึ้นซ้ำซากก็อาจจะต้องมีการพิจารณาเรื่องเงื่อนไขในสัญญา เพราะในร่าง TOR จะมีระบุอยู่แล้วว่า จะต้องไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของท่าอากาศยาน ซึ่งจะต้องดูในรายละเอียดเรื่องนี้อีกที เพราะถ้ายังมีการกระทำความผิดก็คงจะต้องมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาดกันต่อไป
“เชื่อว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ที่ผ่านมา มีการแก้ไขปัญหากันมาโดยตลอด เพราะฉะนั้น หลังจากนี้จะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ถ้ามีเกิดขึ้นในส่วนของบริษัทที่จ้างงานคนเหล่านี้ และปล่อยให้มากระทำความผิด มาทำลายชื่อเสียงเมืองท่องเที่ยว ทำลายชื่อเสียงของประเทศก็จะต้องออกมารับผิดชอบ ไม่ใช่ปล่อยผ่าน จับกุมแล้วก็ดำเนินคดีกันไป ถ้าเป็นแบบนี้ก็แก้ปัญหาไม่จบ คนที่จ้างมาก็จะต้องมีมาตรการในการควบคุมดูแล และรับผิดชอบ เพราะถ้ายังมีเกิดขึ้นอีกหลังจากมีการพุดคุยกันแล้วก็จะต้องมีการพิจารณาเรื่องการยกเลิกสัญญาเข้ามาเป็นประเด็นหลักด้วย