ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คุณลุงวัย 65 ปี ยึดอาชีพสานหวายเป็นเฟอร์นิเจอร์ หนึ่งเดียวใน อ.สะเดา จ.สงขลา มากว่า 30 ปี มีลูกค้าทั้งคนไทย และชาวมาเลเซีย ชิ้นงานสวยงาม ทนทาน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถูกใจลูกค้าหาตัวจับยาก
การนำหวายมาสานเป็นเฟอร์นิเจอร์เป็นหนึ่งในภูมิปัญญาชาวบ้านของไทยที่ยังคงได้รับความนิยม เนื่องจากมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสวยงาม ทยทาน แตกต่างจากเฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป แต่เริ่มหาคนที่มีความชำนาญในการสานหวายเป็นเฟอร์นิเจอร์ยากขึ้นทุกที
โดยวันนี้ (23 ม.ค.) จะพาไปดูการทำเฟอร์นิเจอร์จากหวายของ นายโสภา สินหอยราก หรือลุงภา อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/46 ซ.6 ถนนท่าพรุวิทยา ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งยึดอาชีพทำเฟอร์นิเจอร์หวายในอำเภอสะเดา เจ้าแรก และเจ้าเดียวมากว่า 30 ปี และเป็นหนึ่งใน 3 เจ้าที่เหลืออยู่ใน จ.สงขลา เพราะเหลือคนทำน้อยมาก แม้เฟอร์นิเจอร์หวายจะมีราคาดี แต่ขั้นตอนการทำยุ่งยาก และใช้เวลายาวนาน ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยมีใครสนใจที่จะยึดอาชีพนี้ นอกจากคนที่มีใจรักจริงๆ
สำหรับเฟอร์นิเจอร์ของลุงภา มีทั้งเก้าอี้ ชุดรับแขก เตียงนอน เก้าอี้โยก ราคาเริ่มตั้งแต่ 1,300-1,800 บาทต่อชิ้น ใช้เวลาทำชิ้นละอย่างน้อย 2 วัน มีทั้งออกแบบเอง และตามที่ลูกค้าสั่ง โดยวางขายที่บริเวณหน้าบ้าน ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะเป็นข้าราชการ และร้านอาหารใหญ่ๆ ที่จะนำไปโชว์ และใช้ภายในบ้าน หรือแม้แต่ชาวมาเลเซียที่เข้ามาท่องเที่ยว และจอดรถแวะชม และเลือกซื้อก่อนกลับประเทศ ที่นิยมมากจะเป็นประเภทเก้าอี้
ในส่วนขั้นตอนการทำ จะนำหวายซึ่งมีหลายชนิด เช่น หวายกำพวน หวายข้อดำ หวายน้ำ ซึ่งใช้เป็นส่วนโครงสร้างมาตากแดดเป็นเวลา 15 วัน เพื่อให้หวายแห้ง และเหนียว แล้วนำมาขัดเอาส่วนที่เป็นข้อออกให้ผิวเรียบ จากนั้นก็นำไปดัดให้เป็นรูปร่างที่ต้องการโดยใช้ความร้อนจากแก๊สช่วย แล้วขึ้นเป็นโครงสร้างตามแบบ หลังจากนั้น จะใช้ไส้หวาย และผิวหวายสานให้สวยงามปิดทับโครงตามรูปแบบ เสร็จแล้วก็ลงวานิชเงา หรือเชลแล็กตากให้แห้ง ก็จะได้เฟอร์นิเจอร์หวายที่มีความสวยงาม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และทนทาน มีอายุการใช้งานนานหลายปี
สำหรับตลาดของเฟอร์นิเจอร์หวายในอนาคต ลุงภา บอกว่า จะมีราคาสูงขึ้นตามราคาวัตถุดิบที่เริ่มหายาก เพราะหวายที่นำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์จะต้องมีอายุประมาณ 20 ปี โดยเฉพาะในส่วนของผิวหวายที่ใช้สาน เป็นหวายที่มาจากประเทศอินโดนีเซีย ราคากิโลกรัมละ 300 บาท ซึ่งนับเป็นต้นทุนที่สูงขึ้น ที่สำคัญเหลือคนทำที่มีฝีมือน้อยมาก ส่วนรายได้ก็ถือว่าอยู่ในระดับดีทีเดียวตามความยากของงาน