พ่อวอนให้ลูกชายตกอาคารเรียนดับใน ร.ร.เอกชนชื่อดังปัตตานีเป็นกรณีสุดท้าย จี้หาทางป้องกัน

ปัตตานี - พ่อของ “น้องมาลีกี” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนเอกชนชื่อดังปัตตานี วอนให้ลูกชายที่เกิดอุบัติเหตุตกจากอาคารเรียนชั้น 4 ลงมากระแทกพื้นเสียชีวิตขอให้เป็นกรณีสุดท้าย จี้ทางโรงเรียนหามาตรการป้องกัน

วันนี้ (19 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเสียชีวิตของ นายมาลีกี สะแลแม อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.3 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี หลังจากตกจากอาคารเรียนชั้นที่ 4 ลงมากระแทกรั้วโรงเรียน เมื่อเวลา 14.30 น.ของวานนี้ (18 ม.ค.) เป็นเหตุให้น้องมาลีกีเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ โดยสภาพศพมีบาดแผลบริเวณต้นคอ คอหัก หัวไหล่หลุด จากแรงกระแทกกับรั้วโรงเรียน

ส่วนบรรยากาศที่บ้านเช้าวันนี้ ได้มีบรรดาผู้บริหารโรงเรียน ครู เพื่อนนักเรียน เพื่อนบ้าน รวมทั้งญาติได้เดินทางมาให้กำลังใจ และแสดงความเสียใจต่อการจากไปของน้องมาลีกี และได้แสดงความเห็นพร้อมกับเรียกร้องให้ทางโรงเรียนควรมีมาตรการป้องกันที่ดีกว่านี้

นายมาลีกี เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ปัตตานี ส่วนสาเหตุการตกนั้นอยู่ระหว่างการสืบสวนและสอบสวนของเจ้าหน้าที่

นายมานุ สะแลแม พ่อของน้องมาลีกีกล่าวว่า ทราบสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายว่าตกจากตึกอาคารโรงเรียน จากผู้บริหารโรงเรียนดังกล่าว หลังจากที่ลูกชายขึ้นไปนั่งเล่นกับเพื่อนในห้องชั้นที่ 4 ประมาณ 7-8 คน โดยผู้บริหารโรงเรียนอ้างว่าห้องดังกล่าวไม่อนุญาตให้นักเรียนเข้ามาเล่น มีการติดป้ายประกาศแล้ว และช่วงเวลาดังกล่าวคุณครูทราบว่ามีนักเรียนขึ้นไปเล่นในห้องต้องห้ามจึงขึ้นไปหวังเพื่อจะเตือนเด็ก และไล่เด็กลงไปเข้าห้องเรียนเพราะเป็นช่วงเวลาเรียน เนื่องจากห้องเรียนของนักเรียนดังกล่าวอยู่คนละตึก

ในระหว่างนั้นมีนักเรียนเดินออกมาเพื่อลงจากตึกดังกล่าว แต่น้องมาลีกีกลับวิ่งข้ามประตูหน้าต่าง ไต่ระเบียงเพื่อข้ามไปอีกห้องและพลาดท่าตกลงมากระแทกกับขอบรั้วโรงเรียนอย่างจัง กระเด็นลงกับพื้นเสียชีวิตทันที ส่วนศพของน้องมาลีกีนั้นทางญาติได้ประกอบพิธีทางศาสนาแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

โดยภายหลังเกิดเหตุเช้านี้ ทางผู้บริหารโรงเรียนฯ ได้มาเยี่ยมถึงที่บ้าน พร้อมกับแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวเป็นเงินสด 5 หมื่นบาท

นายมานุยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องคดีความนั้นเป็นเรื่องของกฎหมายบ้านเมือง ทางญาติไม่หวังเอาผิดกับใครทั้งสิ้น ถือว่าลูกเราไปดีแล้ว เพราะถึงเวลาทุกคนก็ต้องตาย ส่วนเงินช่วยเหลือนั้นทางเราไม่รู้สึกวิตกกังวล เพราะลูกเรา เราต้องดูแลอยู่แล้ว แต่สิ่งที่อยากฝากให้ทางโรงเรียนถือว่ากรณีการเสียชีวิตของลูกชายนั้นเป็นกรณีตัวอย่าง เพื่อให้มีการวางแนวทางป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเดียวกันซ้ำอีก และหาวิธีป้องกันปัญหาที่เกิดเพราะอะไร โดยเฉพาะเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในโรงเรียน เป็นชั่วโมงเวลาเรียน ทำไมถึงปล่อยให้เด็กขึ้นไปมั่วสุมในห้องต้องห้าม ซึ่งไม่ใช่ตึกอาคารเรียนของนักเรียนอีกด้วย แล้วถ้าเป็นห้องต้องห้ามตามที่ผู้บริหารกล่าวอ้างนั้น แล้วทำไมถึงเข้าไปได้ ทำไมทางโรงเรียนถึงไม่ล็อกกุญแจ และครั้งนี้คงไม่ใช่ครั้งเดียว ทำไมถึงปล่อยปะละเลยจนกระทั่งเกิดเหตุสลดใจในครั้งนี้

จึงอยากให้ทางโรงเรียนฯ หลังจากนี้เข้ามาดูแลให้ความสำคัญต่อเด็กมากขึ้น ไม่ว่าการเรียนของเด็ก ความปลอดภัยของเด็กต้องถือเป็นหน้าที่หรืออามานะห์ ที่ทางโรงเรียนควรแสดงความรับผิดชอบ ไม่เพียงแค่พอมีเหตุแล้วเอาเงินไปจ่ายเพื่อแสดงความรับผิดชอบเพียงเท่านี้