ระนอง- นับวันคนไทยอยู่ยากขึ้น หลังพบแรงงานต่างด้าวเมียนมา ผันตัวเอง มาเป็นผู้ประกอบกิจการด้านประมงเอง ทั้งประมูลปลาส่งออกกรุงเทพฯ และธุรกิจอื่น
วันนี้(18 ม.ค.61) ที่อาคารองค์การสะพานปลาจังหวัดระนอง นายสุรินทร์ โลสง นายกสมาคมประมง กล่าวถึงปัญหาการประกอบอาชีพประมง หลังมีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ผันตัวเองเป็นเถ้าแก่มากขึ้น ว่า จากประสบการณ์ที่ตนคลุกคลีกับวงการประมงนี้มายาวนาน ต้องยอมรับว่างานภาคประมงนั้น ส่วนใหญ่เป็นงานที่คนไทยไม่นิยมทำกัน เพราะเป็นงานที่หนักและค่อนข้างไม่สะอาด ทำให้แรงงานชาวเมียนมาเมื่อเข้ามาทำงานนาน สะสมประสบการณ์
จนถึงขณะนี้พบว่า แรงงานต่างด้าวในกลุ่มประมง ได้ผันตัวจากลูกจ้างมาเป็นผู้ประกอบกิจการ เป็นเจ้าของกิจการขนาดเล็ก หรือ แผงขายปลาในตลาดสดระนอง กันเป็นจำนวนมาก โดยมีการว่าจ้างรถกระบะบรรทุกส่งไปยังต่างจังหวัด นอกจากทำให้ต่างด้าวชาวเมียนมา มีชีวิตความเป็นอยู่ส่วนตัวที่ดีขึ้นแล้ว ยังได้การยอมรับจากกลุ่มแรงงานต่างด้าวด้วยกัน ส่วนคนไทยที่ประกอบอาชีพนี้เริ่มอยู่ยากขึ้น
สำหรับเส้นทางการก้าวเข้ามาเป็นเถ้าแก่ ของกลุ่มแรงงานต่างด้าว เริ่มจากแรงงานชาวเมียนมา ที่เข้าเป็นเพียงลูกจ้างหรือแรงงานของพ่อค้าแม่ค้าปลาในตลาดสด แต่เมื่อทำมาหลายปี ก็แล้วเริ่มเห็นได้ว่ามีลูกจ้างชาวเมียนมาจำนวนไม่น้อยกลายเป็นเจ้าของกิจการประมูลปลาและส่งปลาไปยังกรุงเทพและพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง
ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนกว่า 50 % ของผู้ค้าในตลาดองค์การสะพานปลาทั้งหมด ส่วนแผงที่อยู่ในตลาดสดระนองที่มีเจ้าของเป็นชาวเมียนมาส่วนใหญ่จะเป็นแผงด้านในตลาด ได้แก่ แผงขายปลา และ แผงผัก
นายสุรินทร์ ยังกล่าวต่อว่า แรงงานต่างด้าวส่วนใหญ่มีความ ขยันอดออม ทำงานเก็บเงิน มีประสบการณ์ยาวนาน จนมีทุนที่จะรับซื้อหรือประมูลปลาเป็นของตัวเอง ปัจจุบันเวลาที่มีการประมูลปลาก็จะประมูลปลาในราคาที่สูงกว่าคนไทย แต่เป็นปลาเกรด B เมื่อได้ปลามาก็ จะชักชวนเครือข่ายเพื่อนๆ และญาติ ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดระนองมาช่วยเหลือกันในการคัดแยก ชำแหละ ดองปลา โดยจ่ายค่าแรงงานที่ถูกกว่าแรงงานขั้นต่ำ ซึ่งต่างกับคนไทยที่จะต้องไปจ้างแรงงานเหล่านี้ในราคาที่สูงกว่า
วันนี้(18 ม.ค.61) ที่อาคารองค์การสะพานปลาจังหวัดระนอง นายสุรินทร์ โลสง นายกสมาคมประมง กล่าวถึงปัญหาการประกอบอาชีพประมง หลังมีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ผันตัวเองเป็นเถ้าแก่มากขึ้น ว่า จากประสบการณ์ที่ตนคลุกคลีกับวงการประมงนี้มายาวนาน ต้องยอมรับว่างานภาคประมงนั้น ส่วนใหญ่เป็นงานที่คนไทยไม่นิยมทำกัน เพราะเป็นงานที่หนักและค่อนข้างไม่สะอาด ทำให้แรงงานชาวเมียนมาเมื่อเข้ามาทำงานนาน สะสมประสบการณ์
จนถึงขณะนี้พบว่า แรงงานต่างด้าวในกลุ่มประมง ได้ผันตัวจากลูกจ้างมาเป็นผู้ประกอบกิจการ เป็นเจ้าของกิจการขนาดเล็ก หรือ แผงขายปลาในตลาดสดระนอง กันเป็นจำนวนมาก โดยมีการว่าจ้างรถกระบะบรรทุกส่งไปยังต่างจังหวัด นอกจากทำให้ต่างด้าวชาวเมียนมา มีชีวิตความเป็นอยู่ส่วนตัวที่ดีขึ้นแล้ว ยังได้การยอมรับจากกลุ่มแรงงานต่างด้าวด้วยกัน ส่วนคนไทยที่ประกอบอาชีพนี้เริ่มอยู่ยากขึ้น
สำหรับเส้นทางการก้าวเข้ามาเป็นเถ้าแก่ ของกลุ่มแรงงานต่างด้าว เริ่มจากแรงงานชาวเมียนมา ที่เข้าเป็นเพียงลูกจ้างหรือแรงงานของพ่อค้าแม่ค้าปลาในตลาดสด แต่เมื่อทำมาหลายปี ก็แล้วเริ่มเห็นได้ว่ามีลูกจ้างชาวเมียนมาจำนวนไม่น้อยกลายเป็นเจ้าของกิจการประมูลปลาและส่งปลาไปยังกรุงเทพและพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง
ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนกว่า 50 % ของผู้ค้าในตลาดองค์การสะพานปลาทั้งหมด ส่วนแผงที่อยู่ในตลาดสดระนองที่มีเจ้าของเป็นชาวเมียนมาส่วนใหญ่จะเป็นแผงด้านในตลาด ได้แก่ แผงขายปลา และ แผงผัก
นายสุรินทร์ ยังกล่าวต่อว่า แรงงานต่างด้าวส่วนใหญ่มีความ ขยันอดออม ทำงานเก็บเงิน มีประสบการณ์ยาวนาน จนมีทุนที่จะรับซื้อหรือประมูลปลาเป็นของตัวเอง ปัจจุบันเวลาที่มีการประมูลปลาก็จะประมูลปลาในราคาที่สูงกว่าคนไทย แต่เป็นปลาเกรด B เมื่อได้ปลามาก็ จะชักชวนเครือข่ายเพื่อนๆ และญาติ ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดระนองมาช่วยเหลือกันในการคัดแยก ชำแหละ ดองปลา โดยจ่ายค่าแรงงานที่ถูกกว่าแรงงานขั้นต่ำ ซึ่งต่างกับคนไทยที่จะต้องไปจ้างแรงงานเหล่านี้ในราคาที่สูงกว่า
