พัทลุง - ทหาร ร่วมแขวงการทางพัทลุงลุยจัดระเบียบริมทางหลวง รื้อถอนแผงขายสับปะรดของเกษตรกร คาดเสร็จสิ้นก่อน 1 ก.พ.นี้ ด้านเกษตรกรเผยเห็นด้วย และอยากให้มีระบบมากขึ้น พร้อมแนะอย่าจัดระเบียบเพียงแค่แผงสับปะรด ต้องจัดระเบียบของรถตู้โดยสารด้วย
วันนี้ (16 ม.ค.) พ.อ.ทิม เรือนโต หัวหน้าสำนักงานความมั่นคงภายในจังหวัดพัทลุง หรือ กอ.รมน.พัทลุง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กองพันทหารช่างที่ 401-402 ค่ายอภัยบริรักษ์พัทลุง เจ้าหน้าที่แขวงการทางพัทลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอป่าบอน กว่า 50 นาย ได้สนธิกำลังเข้ารื้อแผงขายสับปะรดริมทางถนนเพชรเกษม ช่วงรอยต่ออำเภอป่าบอน จ.พัทลุง ถึงอำเภอรัตภูมิ จ.สงขลา เพื่อขอคืนพื้นที่จากชาวบ้านที่มีอาชีพทำสวนสับปะรดในพื้นที่อำเภอป่าบอน และได้นำสับปะรดมาวางแผงขายริมทางเพื่อให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวแวะชื้อเป็นของฝาก และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่มานานกว่า 40 ปี
โดยเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้ทำการรื้อถอนแผงชั่วคราวของชาวบ้านเป็นระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร และในวันนี้ ทำการื้อถอนได้ 15 แผง ก่อนที่จะดำเนินการรื้อให้เสร็จสิ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธุ์ที่จะถึงทั้งหมดกว่า 200 แผง ซึ่งเจ้าหน้าที่แขวงการทาง ระบุว่า เพื่อปรับภูมิทัศน์ และลดปัญหาการจราจรจากการจอดรถแวะชื้อของฝาก
ทางแขวงทางหลวงพัทลุง จึงจำเป็นต้องรื้อถอนแผงขายสัปรดชาวบ้านดังกล่าว แต่จะผ่อนปรนให้ชาวบ้านย้ายถอดมาสร้างใหม่ โดยห่างจากเส้นทางหลวงได้ 2 เมตร ซึ่งในวันนี้ที่เข้ามาทำการรื้อถอนนั้น ในส่วนของแผงที่เจ้าของไม่สามารถดำเนินการเองได้ และหากชาวบ้านจะสร้างแผงขายใหม่นั้นต้องไม่มีห้องน้ำ และจะเป็นแผงขายได้ชั่วคราวเท่านั้น
ในขณะที่แม่ค้าขายสับปะรดรายหนึ่ง ระบุว่า ตนก็เห็นด้วยต่อการจัดระเบียบร้านค้า แต่อยากให้แขวงการทางบริหารจัดการริมทางให้เป็นระบบ เพราะอาชีพขายสับปะรดเป็นอาชีพที่ชาวบ้านที่นี่ขายมาอย่างยาวนาน และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร และร้านค้าริมทางนั้นชาวบ้านเจ้าของสวนที่มีบ้านติดริมถนนจะตั้งแผงขายเองปลูกเอง ซึ่งสับปะรดที่นี่จะมีรสชาติหวาน ในแต่ละปีสามารถสร้างรายได้เข้าจังหวัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังมองอีกว่า ในการจัดระเบียบริมทางไม่อยากให้ทางทหารจัดการรื้อเฉพาะแผงขายสับปะรดของเกษตรกรเพียงอย่างเดียว ทุกวันนี้ปัญหาการจราจรในช่วงเทศกาล และชั่วโมงเร่งด่วน ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารยังใช้พื้นที่จอดรถริมทางรับส่งผู้โดยสารใต้สะพานลอยหลายแห่งจนทำให้การจราจรติดขัด และทางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ไม่เคยให้ความสำคัญทำเหมือนมองไม่เห็น ทั้งที่บางจุดตั้งอยู่หน้าตู้ยามตำรวจตรงใต้สะพานลอย หรือกลุ่มอาชีพเหล่านีมีอภิสิทธิ์พิเศษมากว่าเกษตรกร