อุทยานอ่าวพังงาตรวจจับเรือไม่มีใบอนุญาต ด้านเจ้าท่าคุมเข้มทุกลำ ไม่ปลอดภัยห้ามออก

พังงา - อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ตรวจจับเรือทัวร์ท่องเที่ยวไม่มีใบอนุญาตเข้าเขตอุทยานฯ โดยมีหลายลำที่ยังไม่ต่อทะเบียนใบอนุญาตเข้าเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16(13) พร้อมกับตักเตือน และแจ้งให้ยื่นขออนุญาตนำเที่ยวให้ถูกต้อง ขณะที่เจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา ตรวจเข้มเรือก่อนออกจากท่า ต้องพร้อมทุกอย่างตามกฎหมายกำหนด ป้องกันเกิดอุบัติทางน้ำ

วันนี้ (15 ม.ค.) นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ตรวจเรือทัวร์ทุกลำเพื่อดูใบอนุญาตเข้าเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ซึ่งพบว่า ยังมีเรือสปีดโบตที่ยังไม่ต่อทะเบียนใบอนุญาตเข้าเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ตามนโยบายของ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงสั่งการให้ปรับตามกฎหมายกำหนด

จากสถิติการเปรียบเทียบปรับของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา พบว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2560 จนถึงเดือนมกราคม 2561 มีการเปรียบเทียบปรับเรือนำเที่ยวไม่มีใบอนุญาตเข้าเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาแล้ว จำนวน 121 ลำ เป็นเงิน 95,500 บาท เป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16(13) ฐานเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ หรือหาผลประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 18 ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ พร้อมกับตักเตือน และแจ้งให้ยื่นขออนุญาตนำเที่ยวให้ถูกต้อง

โดยพบว่าเปรียบเทียบสถิติการยื่นขอใบอนุญาตเข้าเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ช่วงก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ 4 ตุลาคม 2559 ถึง 4 กรกฎาคม 2560 พบว่า เรือหางยาวขออนุญาตจำนวน 141 ลำ สปีดโบต 73 ลำ เรือใหญ่ 56 ลำ ซีแคนู 472 ลำ

ส่วนเรือที่ขอใบอนุญาตเข้าเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2560-ปัจจุบัน พบว่า เรือหางยาวขออนุญาต จำนวน 335 ลำ สปีดโบต 185 ลำ เรือใหญ่ 99 ลำ ซีแคนู 959 ลำ โดยการขออนุญาตเข้าเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา มีเพิ่มขึ้น เรือหางยาวขออนุญาตเพิ่มขึ้นจำนวน 194 ลำ สปีดโบต 112 ลำ เรือใหญ่ 43 ลำ ซีแคนู 487 ลำ ซึ่งการตรวจสอบเรือที่ขอใบอนุญาตเข้าเขตอุทยานแห่งชาติเป็นมาตรการที่ควบคุมเรือนำเที่ยวเพื่อต้องการทราบจำนวนเรือนำเที่ยวที่เข้าเขตอุทยานแห่งชาติ อีกทั้งเป็นมาตรการดูแลควบคุมความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย

ขณะที่เจ้าท่าพังงา สั่งคุมเข้มเรือทัวร์ท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ ทั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิต อุปกรณ์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวบนเรือให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา พร้อมห้ามดื่มสุราหรือเสพของมึนเมา ห้ามจุดดอกไม้ไฟในเรือ หวั่นป้องกันอุบัติเหตุ

โดยในวันนี้ (15 ม.ค.) นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่า ภูมิภาคสาขาพังงา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดพังงา ได้มีนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติจำนวนมากนิยมท่องเที่ยวทางทะเลไปตามหมู่เกาะต่างๆ เช่น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ และอ่าวพังงา ซึ่งในจังหวัดพังงา มีจำนวนทั้งหมด 24 ท่าเทียบเรือ มียอดนักท่องเที่ยวทางทะเลที่ใช้บริการท่าเทียบเรือต่างๆ ประมาณวันละ 10,000-12,000 คนต่อวัน

โดยก่อนที่เรือทัวร์ออกเดินทางไปตามเกาะต่างๆ ตั้งแต่ช่วงเช้า จะมีทางเจ้าหน้าที่ได้ลงตรวจเข้มให้ผู้ควบคุมเรือ ทำการตรวจสภาพเรือ อุปกรณ์ช่วยชีวิตให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานห้ามดื่มสุรา หรือเสพของมึนเมา ห้ามจุดดอกไม้ไฟในเรือ และห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนเพื่อให้มีความปลอดภัย โดยเรือทุกลำต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากประชาชนได้รับอันตรายหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถแจ้งเหตุทางน้ำ และร้องทุกข์ต่างๆ ได้ที่สายด่วน 1199 ตลอด 24 ชั่วโมง