ปัตตานี - คืบหน้าคนร้ายก่อเหตุยิง 3 ศพยกครัว ใน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เตรียมรื้อคดีที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากทราบว่า กลุ่มเครือญาติของผู้ตายที่เป็น อส.เคยถูกลอบยิงมาแล้ว 2-3 ครั้ง
วันนี้ (11 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคนร้าย 4 คน บุกเข้าไปในบ้านเลขที่ 140 บ้านบือแนยามู ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ก่อนจะทำการจับคนในบ้าน 3 คน มัดมือมัดเท้า ก่อนจะใช้อาวุธปืนจ่อยิงศรีษะทั้ง 3 คนอย่างโหดเหี้ยม ทำให้เสียชีวิตทันที จากนั้นคนร้ายทั้ง 4 คน หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เอกชัย วิเชียร ผกก.สส.สภ.จ.ปัตตานี นำกำลังชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่เกิดเหตุทันที เพื่อตรวจหาวัตถุพยานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง ปรากฏว่า การตรวจสอบเช้านี้เจ้าหน้าที่พบปลอกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 3 ปลอก ซึ่งเป็นของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ นอกจากนี้ ยังได้มีการสอบพยานในที่เกิดเหตุจำนวนหนึ่ง ซึ่งพยานระบุว่า ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ มีพียงได้ยินเสียงรถ จยย.ผ่าน ส่วนปลอกกระสุนปืนซึ่งถือว่าเป้นหลักฐานสำคัญ ขณะนี้ได้นำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีใดบ้าง
สำหรับแนวทางการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า กลุ่มผู้ตายถือว่าเป้นผู้ที่ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ ในพื้นที่ ต.น้ำดำ เจ้าหน้าที่ได้เคยทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านญาติของ นายมามะ สะอิ ซึ่งเป็นแกนนำระดับสั่งการกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ ภายหลังการตรวจค้นทำให้ นายมามะ สะอิ โกรธแค้นจึงได้ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอทุ่งยางแดง เสียชีวิต ซึ่ง อส.นายนี้เป็นเครือญาติของผู้ตายทั้ง 3 คน ก่อนจะมีการก่อเหตุยิงบรรดาญาติของผู้ตายอีก 3 ครั้ง จนกรทั่งล่าสุด คนร้ายได้บุกเข้ามาก่อเหตุกับผู้ตายจนเสียชีวิต 3 ศพ
พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง เนื่องจากการกระทำของคนร้ายอุกอาจ มีการจับมัดมือมัดเท้าก่อนที่จะลงมือยิง สำหรับความเชื่อมโยงมีความขัดแย้งในพื้นที่ค่อนข้างยาวนาน ในส่วนของผู้ตายเป็นผู้ที่ให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่รัฐมาตลอด นี่คงเป็นสาเหตุหนึ่ง ประเด็นสาเหตุที่แท้จริงต้องรอความเชื่อมโยง และผลจากพยานหลักฐาน และการสืบสวนในเชิงลึกอีกครั้ง ส่วนจะเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบหรือไม่นั้นยังไม่ฟันธง
เพียงแต่การปฏิบัติการในพื้นที่เกิดเหตุนั้นมีกลุ่มก่อความไม่สงบแผ่อิทธิพลเคลื่อนไหวและมีการก่อเหตุบ่อยครั้ง รวมไปถึงก่อเหตุกับเครือญาติของผู้ตาย ซึ่งกำลังตรวจสอบว่ามีความขัดแย้งส่วนตัว โดยอาศัยกลุ่มก่อความไม่สงบมาก่อเหตุเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงต่อการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งหลังจากนี้ จะต้องมีการรื้อคดีที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากทราบว่า กลุ่มของผู้ตายที่เป็น อส.เคยถูกลอบยิงมาแล้ว 2-3 ครั้ง ตนได้สั่งให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่รื้อสำนวนเก่ามาดูความเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าว และจะเร่งสืบสวนสอบสวนติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้
