ชุมพร - ผอ.ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคง ฉุนจัด ท้องถิ่นปล่อยให้นายทุน นักการเมือง รุกอ่าวหอยเสียบ จ.ชุมพร สร้างบ้านหรู แม้ถูกจับกุมดำเนินคดีแล้วแต่ยังมีการรุกต่อโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จี้เร่งดำเนินการขั้นเด็ดขาด
วันนี้ (10 ม.ค.) พล.ท.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะ ผอ.ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.ศปป.4 กอ.รมน.) และที่ปรึกษามูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พ.อ.จำรัส สังขะวร รอง หน.สล.พมพ.ทภ.4 พร้อม ด้วยคณะลงตรวจสอบติดตามผลการดำเนินการแก้ปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ยึดครองที่สาธารณประโยชน์ และปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ที่ประชาชนใน จ.ชุมพร ร้องเรียนไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.
โดยร่วมประชุมกับ นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว นายสรภพ ธานินทร์พงษ์ หน.สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 43 (ปะทิว) นางชิดสุภางค์ ชำนาญ เลขานุการสมาคมเพื่อนสิ่งแวดล้อมชุมพร ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ตามที่ประชาชนในพื้นที่ร้องเรียน
ต่อมา พล.ท.ผดุง พร้อมคณะ และนายชลิต ชุมเกษียร นายกเทศเทศบาลตำบลชุมโค ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ลงตรวจสอบพื้นที่สาธารณะอ่าวหอยเสียบ บ้านบางจาก หมู่ที่ 5 ตำบลชุมโค ที่มีนายทุนบุกรุกสร้างบ้านพักตากอากาศหรูมูลค่าหลายล้านบนเนินเขาริมชายหาด ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจยึดจับกุมดำเนินคดีต่อผู้รับเหมาก่อสร้าง และแรงงานจำนวนหนึ่ง
ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างชั้นพนักงานสอบสวน แต่กลับมีนักการเมืองท้องถิ่น อดีตนักการเมืองระดับชาติ ใช้อิทธิพลเส้นสายวิ่งเต้น และกดดันการทำงานเจ้าหน้าที่รัฐ จนชาวบ้านมีการร้องเรียนไปยัง คสช.ให้ลงมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
พล.ท.ผดุง กล่าวภายหลังตรวจสอบ ว่า ท้องถิ่นเจ้าของพื้นที่อยู่อย่างไรถึงให้นายทุนเข้ามายึดครองที่สาธารณะสร้างบ้านพักหรูได้ขนาดนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานเกี่ยวข้องระบุชัดเจนเป็นที่สาธารณประโยชน์ เป็นสมบัติของแผ่นดิน และสั่งการให้นายกเทศบาลตำบลชุมโค เจ้าของพื้นที่เร่งดำเนินมาตรการทางกฎหมาย และรื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างบนหาดสาธารณะดังกล่าวโดยเร็ว
หลังจากนั้น พล.ท.ผดุง พร้อมคณะ และนายประกิจ แข่งขัน รองนายก อบต.ปากคลอง ผู้ใหญ่ กำนัน ผู้นำชุมชนได้ลงพื้นที่อ่าวทุ่งทราย และป่าพรุกระชิง ที่ถูกนายทุน และชาวบ้านบุกรุก ตรวจสอบศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว “ริเวียร่าเมืองไทย” ก่อสร้างกว่า 20 ล้านบาท ที่ก่อนหน้านี้ ถูกปล่อยทิ้งร้างในพื้นที่ตำบลปากคลอง
ตรวจสอบบ้านรังนกนางแอ่นที่สร้างอยู่บนอาคารพาณิชย์ ส่งเสียงดัง และมีกลิ่นเหม็นฉุนส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยชาวบ้านในชุมชน และสิ่งแวดล้อมในชุมชนเทศบาลตำบลมาบอำมฤต อ.ปะทิว รวมทั้งตรวจสอบพื้นที่ป่าต้นน้ำพรุตาอ้าย ตำบลทะเลทรัพย์ ที่มีนายทุน ชาวบ้านบุกรุกและตัดไม้ทำลายป่ามานาน
พล.ท.ผดุง กล่าวว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นมีมานานแล้วแต่ไม่ได้รับการแก้ไขจนชาวบ้านร้องเรียนไปยัง คสช. ซึ่งปัจจุบันหลายเรื่องจากการลงตรวจสอบในพื้นที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการทั้งทางปกครอง และทางกฎหมายของหน่วยงานเกี่ยวข้อง บางเรื่องก็ยุติแล้ว แต่บางเรื่องยังคาราคาซังยืดเยื้ออยู่ ซึ่งจะได้สรุปผลการดำเนินงานของหน่วยงานเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาทั้งหมดรายงานต่อ คสช.และรัฐบาล พร้อมกับติดตามความคืบหน้าเป็นระยะๆ ต่อไป
วันนี้ (10 ม.ค.) พล.ท.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะ ผอ.ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.ศปป.4 กอ.รมน.) และที่ปรึกษามูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พ.อ.จำรัส สังขะวร รอง หน.สล.พมพ.ทภ.4 พร้อม ด้วยคณะลงตรวจสอบติดตามผลการดำเนินการแก้ปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ยึดครองที่สาธารณประโยชน์ และปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ที่ประชาชนใน จ.ชุมพร ร้องเรียนไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.
โดยร่วมประชุมกับ นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว นายสรภพ ธานินทร์พงษ์ หน.สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 43 (ปะทิว) นางชิดสุภางค์ ชำนาญ เลขานุการสมาคมเพื่อนสิ่งแวดล้อมชุมพร ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ตามที่ประชาชนในพื้นที่ร้องเรียน
ต่อมา พล.ท.ผดุง พร้อมคณะ และนายชลิต ชุมเกษียร นายกเทศเทศบาลตำบลชุมโค ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ลงตรวจสอบพื้นที่สาธารณะอ่าวหอยเสียบ บ้านบางจาก หมู่ที่ 5 ตำบลชุมโค ที่มีนายทุนบุกรุกสร้างบ้านพักตากอากาศหรูมูลค่าหลายล้านบนเนินเขาริมชายหาด ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจยึดจับกุมดำเนินคดีต่อผู้รับเหมาก่อสร้าง และแรงงานจำนวนหนึ่ง
ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างชั้นพนักงานสอบสวน แต่กลับมีนักการเมืองท้องถิ่น อดีตนักการเมืองระดับชาติ ใช้อิทธิพลเส้นสายวิ่งเต้น และกดดันการทำงานเจ้าหน้าที่รัฐ จนชาวบ้านมีการร้องเรียนไปยัง คสช.ให้ลงมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
พล.ท.ผดุง กล่าวภายหลังตรวจสอบ ว่า ท้องถิ่นเจ้าของพื้นที่อยู่อย่างไรถึงให้นายทุนเข้ามายึดครองที่สาธารณะสร้างบ้านพักหรูได้ขนาดนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานเกี่ยวข้องระบุชัดเจนเป็นที่สาธารณประโยชน์ เป็นสมบัติของแผ่นดิน และสั่งการให้นายกเทศบาลตำบลชุมโค เจ้าของพื้นที่เร่งดำเนินมาตรการทางกฎหมาย และรื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างบนหาดสาธารณะดังกล่าวโดยเร็ว
หลังจากนั้น พล.ท.ผดุง พร้อมคณะ และนายประกิจ แข่งขัน รองนายก อบต.ปากคลอง ผู้ใหญ่ กำนัน ผู้นำชุมชนได้ลงพื้นที่อ่าวทุ่งทราย และป่าพรุกระชิง ที่ถูกนายทุน และชาวบ้านบุกรุก ตรวจสอบศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว “ริเวียร่าเมืองไทย” ก่อสร้างกว่า 20 ล้านบาท ที่ก่อนหน้านี้ ถูกปล่อยทิ้งร้างในพื้นที่ตำบลปากคลอง
ตรวจสอบบ้านรังนกนางแอ่นที่สร้างอยู่บนอาคารพาณิชย์ ส่งเสียงดัง และมีกลิ่นเหม็นฉุนส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยชาวบ้านในชุมชน และสิ่งแวดล้อมในชุมชนเทศบาลตำบลมาบอำมฤต อ.ปะทิว รวมทั้งตรวจสอบพื้นที่ป่าต้นน้ำพรุตาอ้าย ตำบลทะเลทรัพย์ ที่มีนายทุน ชาวบ้านบุกรุกและตัดไม้ทำลายป่ามานาน
พล.ท.ผดุง กล่าวว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นมีมานานแล้วแต่ไม่ได้รับการแก้ไขจนชาวบ้านร้องเรียนไปยัง คสช. ซึ่งปัจจุบันหลายเรื่องจากการลงตรวจสอบในพื้นที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการทั้งทางปกครอง และทางกฎหมายของหน่วยงานเกี่ยวข้อง บางเรื่องก็ยุติแล้ว แต่บางเรื่องยังคาราคาซังยืดเยื้ออยู่ ซึ่งจะได้สรุปผลการดำเนินงานของหน่วยงานเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาทั้งหมดรายงานต่อ คสช.และรัฐบาล พร้อมกับติดตามความคืบหน้าเป็นระยะๆ ต่อไป
