ยะลา - “ครูลิลลี่” ล่องใต้ ติววิชาภาษาไทยให้นักเรียน ม.ต้น และ ม.ปลาย เพื่อเสริมทักษะภาษาไทย และสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชนใน จ.ยะลา
วันนี้ (10 ม.ค.) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ทางเทศบาลนครยะลา ได้จัดกิจกรรม “เสริมทักษะภาษาไทย” โดยได้รับเกียรติจาก อาจารย์กิจมาโนชย์ โรจนทรัพย์ หรือคุณครูลิลลี่ มาเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่เยาวชนจังหวัดยะลาโดยไม่มีค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น มีนักเรียนร่วมเข้ากิจกรรมกว่า 4 พันคน โดยมี นายนายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมเสริมทักษะด้านภาษาไทย จัดขึ้น 2 รอบ คือ รอบเช้า เวลา 09.00-10.30 น. สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และรอบบ่าย เวลา 13.00-15.00 น. สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมเสริมทักษะด้านภาษาไทย เริ่มต้นมาจากที่ครูลิลลี่ โพสต์ลงในอินสตาแกรมว่า ต้องการสอนภาษาไทยเป็นวิทยาทานให้แก่เยาวชนในประเทศเพื่อเป็นการทำความดี เทศบาลนครยะลา จึงได้ติดต่อไป และได้รับการตอบรับจากครูลิลลี่ ในทันทีว่าจะมาสอนภาษาไทยให้แก่เยาวชนจังหวัดยะลา
นับเป็นความเสียสละที่ ครูลิลลี่ อาจารย์ภาษาไทยที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และมีเทคนิคการสอนที่สนุกสนานพร้อมกับการให้ความรู้อย่างเข้มข้น สละเวลาเดินทางมาสอนเยาวชนในยะลา อีกทั้งเป็นการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีโอกาสทัดเทียมกับจังหวัดอื่นๆ ในประเทศ โครงการนี้ได้รับการตอบรับจากนักเรียนในโรงเรียนมัธยมในจังหวัดยะลา เป็นอย่างมาก นักเรียนมีความตื่นตัว และรอคอยที่จะร่วมการติวในครั้งนี้
นายพงษ์ศักดิ์ ยังเผยว่า นับเป็นโอกาสที่ดีนอกเหนือจากคุณครูลิลลี่ เองจะมีภารกิจมากแล้ว สิ่งที่สำคัญท่านเองถือว่าเป็นครูที่มีศิลปะการสอนที่ดี สามารถทำภาษาไทยให้เป็นเรื่องง่าย ซึ่งถือเป็นเรื่อสำคัญที่จะทำให้เด็กเมื่อเข้าไปเรียนแล้วทำให้เกิดความสนุก และเรียนอย่างมีความสุข สามารถที่จะจำหลักวิชาภาษาไทยได้
เมื่อเด็กมีความเข้าใจในหลักวิชาภาษาไทยแล้ว สิ่งที่จะเกิดตามมาก็คือ เด็กจะจำไปตลอดชีวิต สามารถที่จะนำไปประยุกษ์ใช้ในโอกาสต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการวางพื้นฐานที่ดีแก่เด็กใน จ.ยะลา ซึ่งถือเป็นว่ามีประชากรที่นับถือศาสนาอิสลามที่ใช้ภาษาประจำถิ่น ภาษายาวี เป็นชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้น การที่ได้ครูภาษาไทยที่ดีมาทำให้เด็กที่ใช้ภาษาประจำถิ่นภาษายาวีเป็นภาษาประจำวัน ก็จะทำให้เด็กมีโอกาสเข้าใจภาษาไทยได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น
นายพงษ์ศักดิ์ ยังเผยอีกว่า ต้องยอมรับกันว่า ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มารตฐานการศึกษาถือว่าอยู่ในระดับท้ายของประเทศ โดยเฉพาะผลคะแนนวิชาโอเน็ตที่ผ่านมา การที่ครูลิลลี่ ได้เสียสละมีจิตอาสาเข้ามาช่วยเสริมในเรื่องของทักษะภาษาไทย คิดว่าคะแนนวิชาโอเน็ตในวันข้างหน้าจะทำให้มาตรฐานการเรียนดีขึ้น โดยผลคะแนนโอเน็ตที่ผ่านมา คิดว่าคงจะมีการจัดครูที่ไม่ตรงสายภาษาไทย โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้โอกาสที่จะคัดเลือกครูที่ค่อนข้างน้อย ซึ่งจะมีการหารือว่าจะมีการจัดติวอย่างไรต่อไปในอนาคต
