ยะลา - เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และอุทยานแห่งชาติบางลาง พร้อมด้วยชาวบ้าน ต.คีรีเขต อ.ธารโต ออกติดตามโขลงช้างป่า หลังพบรอยเท้าเข้ามาวนเวียนหากินในพื้นที่อีกครั้ง
วันนี้ (8 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีช้างป่าข้ามเขตแดนจากฝั่งแนวป่าไม้ของประเทศมาเลเซีย เข้ามายังเขตแดนประเทศไทย ที่บ้าน กม.7-บ้านบุตรหลาน หมู่ที่ 3 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา เมื่อหลายวันที่ผ่านมา และทางชาวบ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยพระครูสมุหะพิสิทธิ์ อนาลโย เจ้าอาวาสวัดศรีนคร ได้เข้าไปทำพิธีขอขมา และอัญเชิญทวดช้าง ตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ เพื่อให้นำทางช้างป่ากลับเข้าป่าไปเดิม เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ชาวบ้านในพื้นที่ได้แจ้งว่า พบร่องรอยเท้าของช้างป่า และได้ยินเสียงร้องของช้างป่า ตามแนวชายป่าเขตแดนบ้าน กม.7 และพบร่องรอยของการหากิน ทำลายพืชสวนจำนวนหลายจุดด้วยกัน
นายเสกสรร ไตรสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.คีรีเขต จึงได้ประสานแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลาง ให้เข้ามาดำเนินการติดตาม และทำการผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ เนื่องจากชาวบ้านเกิดความหวาดกลัว เกรงว่าจะได้รับอันตรายจากช้างป่า จนไม่กล้าที่จะเดินทางไปกรีดยางพารา และทำสวนตามปกติ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลาง พร้อมด้วย พระครูสมุหะพิสิทธิ์ อนาลโย เจ้าอาวาสวัดศรีนคร และผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ได้เดินทางตั้งแต่ช่วงเช้าเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบช้างป่า
โดยจากการตรวจสอบต้องเดินเท้าขึ้นไปตามทางลาดชัดในแนวป่าที่ติดกับพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้าน ก็พบร่องรอยของเท้าช้าง และมูลช้างเป็นจุด ๆ ซึ่งคาดว่าช้างป่าที่ได้ทำการผลักดันกลับไปนั้นได้นำโขลงช้างอีก จำนวน 4-5 ตัว กลับเข้ามาหากินตามเดิมอีกครั้ง เนื่องจากในขณะนี้พื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านกำลังอยู่ในช่วงที่ผลไม้ออกผลผลิต และมีความอุดมสมบูรณ์ทางด้านอาหาร และพื้นที่ จึงทำให้ช้างป่ากลับเข้ามาหากิน ผนวกกับพื้นที่ป่าของประเทศเพื่อนบ้านมีการทำสัมปทานป่าไม้ จึงมีความเป็นไปได้ว่า ช้างป่าดังกล่าวได้พากันหลบหนีเสียงเลื่อยยนต์ในการทำสัมปทานป่าไม้
ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบพื้นที่ตามเส้นทางร่องรอยเท้าช้าง ทำให้เจ้าหน้าที่ได้พบกับช้างป่าไม่ทราบเพศ หลบซ่อนตัว และหากินใบไม้อยู่ในแนวป่าที่บ้าน กม.7 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทำได้เพียงสังเกตการณ์ และไม่สามารถทำการผลักดันได้เนื่องจากเกรงว่าช้างจะทำร้าย ก่อนที่จะถอนกำลังกลับออกจากป่า และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่บ้าน กม.7 บ้านบุตรหลาน ต.คีรีเขต ให้เฝ้าระวังช้างป่า และงดออกจากบ้านตอนกลางคืนเพื่อป้องกันการถูกช้างป่าทำร้าย
