“ยิ้ม” คือ “ประตูแห่งมิตรภาพ” ใช่อยู่แค่ที่มุมปากและใบหน้า แต่ยังมีอยู่ในทุกสรรพสิ่ง / สกนธ์ รัตนโกศล

คอลัมน์ : ดูรูปสวยแถมด้วยเกร็ดความรู้
โดย...สกนธ์ รัตนโกศล

“ยิ้ม” ในความหมายจาก พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร ยิ้มเป็นอาการแสดงริมฝีปากและใบหน้าให้ปรากฏอาการชอบใจ

ในด้านของจิตใจ ยิ้มมีประโยชน์ เปรียบเสมือนเป็นประตูเปิดรับมิตรภาพ เนื่องจากยิ้มดูเป็นมิตร

มหาวิทยาลัยเพนน์ สเตท ได้ทำการศึกษาพนักงานบริษัทที่ทำหน้าที่ให้บริการต่างๆ พบว่า คนที่ยิ้มบ่อยจะมีอัตราการขายงานได้มากกว่าคนที่ยิ้มน้อยกว่าหลายเท่า ซึ่งอาจเป็นเพราะรอยยิ้มช่วยเปิดทางให้ดูน่าคบหา อีกทั้งยังสร้างทัศนคติที่ดีแก่ผู้ที่พบเห็นได้อย่างง่ายๆ อีกด้วย

ในปี 2010 นักวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ได้พบว่า นอกจากรอยยิ้มจะสามารถสร้างความสุขในร่างกายได้แล้ว ยังมีนัยสำคัญเกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพในการทำงานของตัวบุคคลนั้นๆ อีกด้วย โดยคนที่มีอารมณ์ดี ยิ้มง่าย มีแนวโน้มจะทำงานเก่ง และมีศักยภาพในการทำงานมากกว่าเพื่อนร่วมงานที่เป็นเสือยิ้มยาก ไม่อยากยิ้มกับใคร มักพบว่าประสิทธิภาพการทำงานของเขาเหล่านั้นไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไรตามอารมณ์ของเขา

ที่สำคัญ ยิ้มยังลดความเครียดได้ ซึ่งผลจากการทดลองของคณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยแคนซัส ได้ให้กลุ่มอาสาสมัครประมาณ 170 คน คาบตะเกียบไว้ 3 รูปแบบ แล้วให้อาสาสมัครยิ้ม โดยไม่ต้องกังวลว่าตะเกียบจะหล่นหรือไม่ พบว่า กลุ่มอาสาสมัครที่ยิ้มได้กว้างมากที่สุด มีอัตราการเต้นของหัวใจที่สม่ำเสมอมากกว่า อาสาสมัครที่ไม่ค่อยยิ้ม เพราะกลัวตะเกียบจะหล่น

ในด้านร่างกาย ซอนดรา บาร์เรตต์ เจ้าของหนังสือ Secrets of Your Cells เขียนไว้ว่า รอยยิ้มช่วยฟื้นฟูการทำงานของเซลล์ เพราะการยิ้มมีส่วนสำคัญในการสร้างสมดุลความรู้สึกทั้งหมดในร่างกาย ซึ่งก็เท่ากับว่าทุกความรู้สึกนึกคิดของเราจะส่งผลไปยังเซลล์ในร่างกายตลอดเวลา

ดังนั้น เมื่อใดที่เรายิ้มก็เหมือนกับว่าได้ช่วยลดความตึงเครียดของเซลล์ในรางกายไปด้วย พร้อมๆ กับทำการต่อสู้กับความเครียด อันเป็นต้นเหตุใหญ่ของปัญหาเซลล์เปลี่ยนแปลง จนทำให้เป็นสาเหตุของโรคความดันและโรคมะเร็งต่างๆ แถมยังช่วยฟื้นฟูสภาพของเซลล์ให้พร้อมทำงานอย่างเต็มที่อีกด้วย

ที่สำคัญ ยิ้มยังฝึกสมองให้ดีกว่าเดิม ตามที่ ฌอร์น อาเชอร์ เจ้าของหนังสือ The Happiness Advantage กล่าวว่า เพียงแค่ยิ้มทุกวัน ก็เหมือนได้เทรนสมองให้เข้าใกล้ขีดความสุขมากขึ้น แม้แต่ในช่วงที่สมองมีความเครียด มีความทุกข์ หรือมองใครในแง่ลบ แต่สมองจดจำแล้วว่า การยิ้มจะช่วยลดความคิดแง่ลบเหล่านั้นได้ แถมแทนที่ด้วยระดับความสุขที่มากขึ้นอีกด้วย

ขอรับ ยิ้มเริ่มที่ใจ โลกทั้งโลกสว่างไสวก็ด้วยรอยยิ้ม เรามายิ้มกันให้สมกับเป็นที่เลื่องลือในหมู่ชาวต่างชาติว่า แดนสยามของเราเป็น Land of smiles

ตลอดปีใหม่ 2561 นี้ เรามาเป็นโรคติดต่อที่ดีด้วยการยิ้มกันดีกว่า

เพราะจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อมีนักประสาทวิทยา มาร์โค อิอาโกบอนิ ได้ให้ความรู้ว่า ร่างกายเราจะมีตัวสะท้อนเซลล์ประสาท ซึ่งก็คือ เยื่อหุ้มสมองส่วนหน้า และ กลีบข้างของสมอง คอยทำหน้าที่รับ-ส่งข้อมูลที่ได้เห็น และกระตุ้นให้ร่างกายพยายามเลียนแบบสิ่งที่เห็นและเข้าใจนั้น

และเมื่อเราเห็น “รอยยิ้ม” จากใคร เราก็จะ “ยิ้มตอบ” โดยอัตโนมัติ หรือแม้แต่เรายิ้มให้คนอื่น เขาก็จะยิ้มตามเช่นกัน