ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ตรวจการแผ่นดินไทยจับมือผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบและศึกษาแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาร้องเรียนที่สามารถแก้ปัญหาได้ประสบความสำเร็จ กรณีการก่อสร้างทางลอดแยกสามกอง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (5 ม.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานแขวงทางหลวงภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายสมหวัง โลหณุต แขวงทางหลวงภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ ประชุมร่วมกับ พล.อ.วิทวัส รชตะนันท์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายบูรณ์ ฐาปนดุล ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย นายคริส ฟีลด์ (Mr.Chirs Field) ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะ
ในโอกาสเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบและศึกษาแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างทางลอดจุดตัดทางหลวงหมายเลข 402 กับถนนเยาวราช (แยกสามกอง) จังหวัดภูเก็ต และ ภายหลังร่วมรับฟังการรายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาร้องเรียน กรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการก่อสร้างทางลอดแยกสามกอง คณะทั้งหมดได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพการใช้งานทางลอดแยกสามกอง ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ณ ถนนบายพาส อ.เมืองภูเก็ต
พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ ว่า สืบเนื่องจาก นายคริส ฟีลด์ ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ได้เดินทางมาเยือนผู้ตรวจการแผ่นดินของประเทศไทย อย่างเป็นทางการ จึงได้เชิญร่วมลงพื้นที่เพื่อศึกษาดูงานเกี่ยวกับกระบวนการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนที่ประสบผลสำเร็จของผู้ตรวจการแผ่นดินไทย ระหว่างวันที่ 5-6 ม.ค.นี้
โดยในวันนี้เป็นการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจสอบสภาพการใช้งานและศึกษาดูงานกรณีแก้ไขปัญหาการก่อสร้างทางลอดแยกสามกอง บริเวณถนนบายพาส ที่ล่าช้ากว่า 1 ปี ส่งผลกระทบต่อชาวภูเก็ตด้านความปลอดภัยในการจราจร เนื่องจากเป็นเส้นทางสัญจรสำคัญ ซึ่งจากการลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนของ นายบูรณ์ ฐาปนดุล ผู้ตรวจการแผ่นดิน
ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ตรวจสอบปัญหาอุปสรรคในการทำงานของหน่วยงาน พบว่า มีการขยายเวลาให้แก่ผู้รับเหมาแล้วถึง 5 ครั้ง ด้วยสาเหตุด้านการบริหารจัดการจราจรของเมืองภูเก็ตในช่วงเทศกาล หรือวันหยุดยาว จึงต้องมีการระงับการก่อสร้างชั่วคราวในช่วงนั้นๆ รวมทั้งอุปสรรคจากระบบสาธารณูปโภคที่ติดตั้งอยู่ใต้ดินระหว่างการขุดเจาะ จึงได้ให้ข้อเสนอแนะในการบูรณาการผสานความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งได้ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ส่งผลให้การก่อสร้างมีความต่อเนื่อง และเสร็จสิ้นเมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมา
การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญผู้ตรวจการแผ่นดินของทั้ง 2 ประเทศ จะได้หารือ แลกเปลี่ยนแนวทางการจัดการเรื่องร้องเรียนเชิงประจักษ์ รวมถึงการกระชับสัมพันธภาพที่แน่นแฟ้น ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
และในฐานะที่ตนดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศและกรรมการบริหารในระดับภูมิภาคเอเชีย เป็นโอกาสอันดีในการนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนตามแนวทาง “กัลยาณมิตร” คือ มุ่งเป็นองค์กรกลางในการบูรณาการผสานความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนเสนอแนะทางออกอันนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนอย่างรวดเร็ว และเป็นธรรม ซึ่งสาระสำคัญจากการลงพื้นที่ครั้งนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อประเทศสมาชิกในการปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนให้เหมาะสมต่อบริบทของตนเอง ในเวทีของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ (IOI) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน่วยงานผู้ตรวจการแผ่นดินกว่า 190 องค์กรจากทั่วโลกร่วมเป็นสมาชิก เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และพัฒนาความร่วมมือที่มีคุณูปการต่อไป
ด้าน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ประชุมรับฟังรายงานผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาดังกล่าว ร่วมกับผู้แทนจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นนำคณะผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพการใช้งาน ณ บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 402 กับถนนเยาวราช (แยกสามกอง) ถนนบายพาส อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดใช้อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา
และในวันพรุ่งนี้ (6 ม.ค.) มีกำหนดลงพื้นที่เพื่อศึกษาดูงานการแก้ไขปัญหากรณีประชาชนบนเกาะปันหยี ได้รับผลกระทบอัตราค่าไฟฟ้าสูงกว่าปกติ ณ จังหวัดพังงา ต่อไป
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (5 ม.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานแขวงทางหลวงภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายสมหวัง โลหณุต แขวงทางหลวงภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ ประชุมร่วมกับ พล.อ.วิทวัส รชตะนันท์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายบูรณ์ ฐาปนดุล ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย นายคริส ฟีลด์ (Mr.Chirs Field) ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะ
ในโอกาสเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบและศึกษาแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างทางลอดจุดตัดทางหลวงหมายเลข 402 กับถนนเยาวราช (แยกสามกอง) จังหวัดภูเก็ต และ ภายหลังร่วมรับฟังการรายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาร้องเรียน กรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการก่อสร้างทางลอดแยกสามกอง คณะทั้งหมดได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพการใช้งานทางลอดแยกสามกอง ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ณ ถนนบายพาส อ.เมืองภูเก็ต
พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ ว่า สืบเนื่องจาก นายคริส ฟีลด์ ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ได้เดินทางมาเยือนผู้ตรวจการแผ่นดินของประเทศไทย อย่างเป็นทางการ จึงได้เชิญร่วมลงพื้นที่เพื่อศึกษาดูงานเกี่ยวกับกระบวนการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนที่ประสบผลสำเร็จของผู้ตรวจการแผ่นดินไทย ระหว่างวันที่ 5-6 ม.ค.นี้
โดยในวันนี้เป็นการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจสอบสภาพการใช้งานและศึกษาดูงานกรณีแก้ไขปัญหาการก่อสร้างทางลอดแยกสามกอง บริเวณถนนบายพาส ที่ล่าช้ากว่า 1 ปี ส่งผลกระทบต่อชาวภูเก็ตด้านความปลอดภัยในการจราจร เนื่องจากเป็นเส้นทางสัญจรสำคัญ ซึ่งจากการลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนของ นายบูรณ์ ฐาปนดุล ผู้ตรวจการแผ่นดิน
ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ตรวจสอบปัญหาอุปสรรคในการทำงานของหน่วยงาน พบว่า มีการขยายเวลาให้แก่ผู้รับเหมาแล้วถึง 5 ครั้ง ด้วยสาเหตุด้านการบริหารจัดการจราจรของเมืองภูเก็ตในช่วงเทศกาล หรือวันหยุดยาว จึงต้องมีการระงับการก่อสร้างชั่วคราวในช่วงนั้นๆ รวมทั้งอุปสรรคจากระบบสาธารณูปโภคที่ติดตั้งอยู่ใต้ดินระหว่างการขุดเจาะ จึงได้ให้ข้อเสนอแนะในการบูรณาการผสานความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งได้ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ส่งผลให้การก่อสร้างมีความต่อเนื่อง และเสร็จสิ้นเมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมา
การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญผู้ตรวจการแผ่นดินของทั้ง 2 ประเทศ จะได้หารือ แลกเปลี่ยนแนวทางการจัดการเรื่องร้องเรียนเชิงประจักษ์ รวมถึงการกระชับสัมพันธภาพที่แน่นแฟ้น ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
และในฐานะที่ตนดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศและกรรมการบริหารในระดับภูมิภาคเอเชีย เป็นโอกาสอันดีในการนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนตามแนวทาง “กัลยาณมิตร” คือ มุ่งเป็นองค์กรกลางในการบูรณาการผสานความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนเสนอแนะทางออกอันนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนอย่างรวดเร็ว และเป็นธรรม ซึ่งสาระสำคัญจากการลงพื้นที่ครั้งนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อประเทศสมาชิกในการปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนให้เหมาะสมต่อบริบทของตนเอง ในเวทีของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ (IOI) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน่วยงานผู้ตรวจการแผ่นดินกว่า 190 องค์กรจากทั่วโลกร่วมเป็นสมาชิก เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และพัฒนาความร่วมมือที่มีคุณูปการต่อไป
ด้าน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ประชุมรับฟังรายงานผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาดังกล่าว ร่วมกับผู้แทนจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นนำคณะผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพการใช้งาน ณ บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 402 กับถนนเยาวราช (แยกสามกอง) ถนนบายพาส อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดใช้อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา
และในวันพรุ่งนี้ (6 ม.ค.) มีกำหนดลงพื้นที่เพื่อศึกษาดูงานการแก้ไขปัญหากรณีประชาชนบนเกาะปันหยี ได้รับผลกระทบอัตราค่าไฟฟ้าสูงกว่าปกติ ณ จังหวัดพังงา ต่อไป