ยะลา - ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง คุมเข้มพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ตรวจเข้มรถเข้าออก ป้องกันแนวร่วมก่อความไม่สงบเข้ามาก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์ในวันครบรอบ 14 ปี “วันประกาศเสียงปืนแตก”
วันนี้ (4 ม.ค.) ซึ่งวันนี้เป็นวันครบรอบ 14 ปี ที่เกิดเหตุการณ์ปล้นปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ค่ายปิเหล็ง” ใน ต.ปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีทหารเสียชีวิต 4 นาย คนร้ายปล้นอาวุธปืนไป 413 กระบอก
ซึ่งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยึดคืนมาได้กว่า 100 กระบอก ถือว่าเป็น “วันประกาศเสียงปืนแตก” ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา และเป็นครั้งแรกของการปฏิบัติการใช้ความรุนแรง และท้าทายฝ่ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมา มีการก่อเหตุการณ์บุกปล้นฐานปฏิบัติการของหน่วยฝ่ายความมั่นคง และลอบวางระเบิดกำลัง จนท. ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งบรรยากาศเมื่อคืนที่ผ่านมา นายดำรงค์ ดีสกูล นายอำเภอเบตง ได้สั่งการให้กำลัง ตชด. ตำรวจภูธร ฝ่ายปกครอง และกำลังภาคประชาชนบูรณาการความร่วมมือเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบการลักลอบเข้ามาในเขตเทศบาลเมืองเบตง ของแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งอาจเข้ามาก่อเหตุร้ายเพื่อปฏิบัติการในเชิงสัญลักษณ์ แสดงศักยภาพของกลุ่มในวันครบรอบ 14 ปี ของเหตุการณ์ดังกล่าว
จึงได้สั่งการให้ด่านตรวจทุกด่านในพื้นที่ อ.เบตง และรอยต่อ อ.ธารโต จ.ยะลา ที่มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองยะลา ให้เพิ่มการตรวจตรายานพาหนะ โดยเน้นรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่เป็นรถเป้าหมาย และบุคคลที่ปิดบังอำพรางใบหน้าอย่างละเอียด นอกจากนั้น ยังให้กำลัง ตชด.44 จัดชุดลาดตระเวนขนาดเล็กออกตั้งด่านลอยในเส้นทางย่อยรอบนอกเขตเทศบาลเมืองเบตง เพื่อตัดความอิสระในการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ไม่หวังดีอีกด้วย
พ.ต.อ.สุชาติ สอิด ผกก.สภ.เบตง ได้สั่งการให้ด่านตรวจจุดสกัดทั้ง 3 ด่าน ประกอบด้วย ด่านกม.23 ด่าน ศอร. และด่านนาข่อย ให้ตรวจสอบรถผ่านไปมาอย่างละเอียด รถทุกคันต้องเปิดกระจกลง และสแกนบัตรประชาชนผู้ขับขี่ทุกคน หากพบรถมีลักษณะคล้ายรถเป้าหมายให้ตรวจสอบอย่างละเอียดของที่มา สีรถ และคู่มือทะเบียนว่ามีร่องรอยการแก้ไขหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ ยังให้สายตรวจจักรยานยนต์ตรวจสอบเข้มในย่านชุมชน ย่านการค้า และย่านชุมชนไทยพุทธ เฝ้าระวังสังเกตุการจอดรถที่ผิดสังเกตุอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
ขณะที่หน่วยข่าวกรองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แจ้งเตือนหน่วยกำลังในพื้นที่ และประเมินสถานการณ์แนวโน้มที่คาดว่าจะมีการก่อเหตุในห้วงระหว่างวันที่ 4-15 ม.ค.61 ว่า จากข่าวเชิงลึกที่น่าเชื่อถือได้ว่า กลุ่มคนร้ายระดับแกนนำได้สั่งการให้ยกระดับการก่อเหตุในทุกพื้นที่ ซึ่งปรากฏมีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ ต.บาโร๊ะ ต.ปะแต อ.ยะหา พื้นที่ ต.ปุโรง อ.กรงปินัง และ พื้นที่ อ.ธารโต รอยต่อ อ.เบตง จ.ยะลา ในลักษณะของกำลังขนาดเล็ก เป็นการเตรียมก่อเหตุด้วยวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง แต่ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อกดดันอยู่ตลอดเวลา ทำให้กลุ่มคนร้ายถูกจำกัดเสรีในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในห้วงเวลาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของกลุ่มก่อความไม่สงบ คาดว่ายังคงมีอยู่เมื่อเป้าหมายชัด โอกาสมี ทางหนีพร้อม โดยมีปัจจัยเร่ง คือ การแสดงศักยภาพของกลุ่ม ซึ่งจะเป็นผลเชิงบวกให้แก่กลุ่มก่อความไม่สงบ โดยรูปแบบที่น่าจะเป็นไปได้ ด้วยการลอบวางระเบิดแสวงเครื่องต่อเป้าหมายชุดระวังเส้นทางการดูแลความปลอดภัยครู บนเส้นทางจุดเสี่ยง การยิงด้วยอาวุธเอ็ม 79 เพื่อรบกวนที่ตั้งฐานปฏิบัติการ การก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์ แขวนป้ายผ้า และเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น
