ความสับสนวุ่นวายในสังคมเมือง...ที่เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน ทำให้หลายชีวิตโหยหาความความสงบตามธรรมชาติกันมากขึ้นในปัจจุบัน น.ส.อวัสดา ทองสกุล เจ้าของโตนดิน ฟาร์ม สเตย์ จึงมีแนวคิดที่จะทำแหล่งท่องเที่ยวให้ทุกคนได้สัมผัสกับธรรมชาติแบบเข้าถึงจริงๆ ด้วยการนำที่ดิน ซึ่งเป็นที่นาของคุณย่า จำนวน 4 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลถ้ำ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ที่ก่อนหน้านี้ เป็นที่นาทิ้งร้าง และหันมาปลูกยางพารา แต่เมื่อต้นยางเติบโตจนสามารถกรีดน้ำยางได้ ราคายางกลับตกต่ำอย่างหน้าใจหาย จึงได้ตัดสินใจโค่นต้นยางทิ้งทั้งหมด
พลิกพื้น...ที่ดินทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ด้วยเพราะที่ดินแปลงดังกล่าว ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสำหรับการพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีธารน้ำจากน้ำตกลิ้นกลางที่อยู่ด้านบนภูเขาไหลห่างไปประมาณ 1 กม.ผ่านที่ดินแปลงนี้ ทำให้พื้นที่ไม่ขาดน้ำและชุ่มชื่นตลอดทั้งปี
น.ส.อวัสดามีแนวคิดที่จะพัฒนาที่ดินแปลงนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ผสมผสานกับการเกษตร โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ด้วยการปลูกบ้าน 1 หลัง ขุดบ่อเลี้ยงปลาน้ำจืด มีทั้ง ปลานิล ปลาตะเพียน ปลาดุก ปลาทับทิม หอยขม เป็นต้น พร้อมๆ กับปลูกผักสวนครัว และปลูกหญ้าช้อง นิยมนำมาปรุงอาหารเมนูเบือทอด ซึ่งหญ้าซ้องนี้จะขึ้นเฉพาะในจุดที่น้ำไหลและจะต้องเป็นน้ำที่สะอาดเท่านั้น เพื่อนำมาปรุงอาหารให้กับแขกที่มาใช้บริการ ด้วยเมนูอาหารพื้นบ้านของภาคใต้ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนก็มีเต้นท์ให้บริการ 12 หลัง
หลังจากเปิดให้บริการมาระยะหนึ่ง ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก ทั้งในส่วนของลูกค้าที่มารับประทานอาหาร และกางเต้นท์นอน จึงได้มีการลงทุนเพิ่มด้วยการสร้างบ้านพักจำนวน 4 หลัง ไม่ติดแอร์ ไม่มีทีวี ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เพราะต้องการให้ลูกค้าอาบน้ำจากฝักบัวที่ทำจากกระบอกไม้ไผ่ ห้องน้ำไม่มีหลังคา ลูกค้าจะได้สัมผัสกับธรรมชาติมากที่สุด หลังจากนั้นได้สร้างบ้านพักเพิ่มอีก 3 หลัง มีแอร์ แต่ไม่มีทีวี เพื่อให้ลูกค้าได้พักผ่อนจริงๆ
โดยรอบๆบ้านพักทั้ง 7 หลัง ได้ปลูกผลไม้ พืชผักสวนครัว และทำแปลงปลูกข้าวดอกข่า 1 ไร่ ในช่วงที่ข้าวงอกงามจะเขียวขจี ช่วงที่ข้าวออกรวงก็จะเหลืองอร่าม โดยลูกค้าที่พักผ่อน สามารถที่จะตกปลาจากบ่อที่เลี้ยงไว้ นำมาทำอาหาร จะเป็นเมนูเมี่ยงปลา ในราคาหัวละ 199 บาท ช่วงข้าวสุกเหลืองอร่ามก็สามารถเก็บข้าวด้วยแกะภูมิปัญญาชาวบ้าน รวมไปถึงเก็บผักที่ปลูกไว้มาปรุงอาหาร
นักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อน โตนดิน ฟาร์ม สเตย์ ยังสามารถที่จะเรียนรู้ การปรุงเมนูยำผักกูดแบบบ้านๆ การทำขนมห่อ การหุงข้าวด้วยกระบอกไม้ไผ่ หรือเข้าไปเรียนรู้ชีวิถีชีวิตชาวบ้าน เลือกชื้อผลไม้ในช่วงฤดูผลไม้ออก ที่บ้านถ้ำแห่งนี้ มีชื่อเสียงในเรื่องของ “ลูกหยีป่า” ที่เนื้อหนาและหวาน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อได้ ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท รวมไปถึงผลไม้ตามฤดูกาลต่างๆ หรือหากไม่ค้างคืน แวะไปรับประทานอาหารก็มีเมนูพื้นบ้านรสเด็ดให้เลือกอร่อยกันแบบถึงอกถึงใจ และที่ขึ้นชื่อของที่นี้ เช่น ยำผักกูดแบบบ้านๆ น้ำพริกหยำปลาฉิ้งฉ้าง หล่นเต้าหู้ยี้ไข่เป็ด เห็ดแครงผัดขี้เมา แกงส้ม ต้มส้มยอดลำเพ็ง คั่วกลิ้ง เป็นต้น
ส่วนราคาห้องพัก ห้องพัดลมคืนละ 990 บาท สำหรับ 2 ท่าน พร้อมอาหารเช้า ห้องแอร์ คืนละ 1,290 บาท สำหรับ 2 ท่าน พร้อมอาหารเช้า เต้นท์ คืนละ 500 บาท สำหรับ 2 ท่าน พร้อมอาหารเช้า ที่มีทั้งข้าวต้ม ปาท่องโก ขนมปัง ขนมพื้นเมือง เป็นต้น อยากพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชุมชน ทานอาหารพื้นเมือง แวะมาได้ที่ โตนดิน ฟาร์ม สเตย์ ต.ถ้ำ อ.กะตั่วทุ่ง จ.พังงา โทร. 0816912843