ยะลา - ศอ.บต.ลงพื้นที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงงานยาสูบ 2 ติดตาม และประเมินผลการเรียนการสอนและผลสัมฤทธิ์ของการใช้วิชาภาษาไทย ตามแนวพระราชปณิธานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อนักเรียนในพื้นที่ชายแดนใต้ มีการพัฒนาด้านการอ่านออกเขียนภาษาไทยให้คล่อง
น.ส.นิชาภา หมื่นไกร ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการและประสานนโยบาย สำนักประสานนโยบายการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ศอ.บต. เป็นตัวแทนจาก ศอ.บต. ลงพื้นที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงงานยาสูบ 2 หมู่ที่ 3 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ติดตามและประเมินผลการเรียนการสอนในรายวิชาภาษาไทย ซึ่งทาง ศอ.บต. ได้ดำเนินการจ้างครูในพื้นที่เพื่อนำไปสอนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี ร.ต.ท.สุพจน์ หมัดโซ๊ะ ครูใหญ่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงงานยาสูบ 2 นายอับดุลเลาะห์ รอดิง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 นายมามะซารี คอรอลาแม โต๊ะอิหม่ามในพื้นที่ ครู และนักเรียนร่วมให้การต้อนรับ
ร.ต.ท.สุพจน์ หมัดโซ๊ะ กล่าวว่า ขอขอบคุณศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในฐานะหน่วยงานด้านการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้น้อมนำตามแนวพระราชปณิธานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาพัฒนา และสนับสนุนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาเยาวชนในรั้วโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงงานยาสูบ 2 แห่งนี้ ได้น้อมนำแนวทางพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาพัฒนาคุณภาพน้องๆ ในพื้นที่ โดยเฉพาะวิชาภาษาไทย ทางโรงเรียนได้ยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ให้มีการพัฒนาด้านการอ่านออกเขียนภาษาไทยให้คล่อง เพื่อนำสู่การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และดูแลนักเรียนให้มีคุณภาพ สามารถต่อยอดการศึกษาในระดับสูงให้ดีขึ้นต่อไป
ร.ต.ท.สุพจน์ หมัดโซ๊ะ กล่าวอีกว่า โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงงานยาสูบ 2 จะเน้นในเรื่องการใช้วิชาภาษาไทย และโครงการอาหารกลางวัน โดยให้น้องๆ ได้ร่วมกันรับผิดชอบการปลูกผัก และเลี้ยงสัตว์เพื่อให้รู้ถึงประโยชน์ที่ได้ คือ สามารถนำไปประกอบอาชีพได้หลังเรียนจบ โรงเรียนมีรายได้จากการขายผัก ปลา เนื้อไก่ และไข่ไก่ นำมาเป็นทุนอาหารกลางวัน ที่สำคัญสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน ช่วยยกระดับชีวิต และเศรษฐกิจของครอบครัวให้ดีขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย