xs
xsm
sm
md
lg

จากอดีตสู่ปัจจุบัน “วัดเขาเก้าแสน-หัวนายแรง” แห่งเมืองสงขลา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
เชื่อเหลือเกินว่าหากใครที่ได้เดินมาเที่ยว “เมืองสงขลา” และได้แวะเวียนมายังบริเวณแหลมสมิหลาเพื่อต้องการพักผ่อน หลายๆ คนคงพลาดไม่ได้ที่จะเข้ามาเที่ยวชม “วัดเขาเก้าแสน” ที่ตั้งอยู่บนเขาในบริเวณใกล้กัน เพื่อชมวิวทิวทัศน์ และร่วมถ่ายเซลฟี่สวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก
 


 
หากยังนึกไม่ออกหรือใครที่ไม่เคยเดินทางมายังวัดเขาเก้าแสน ลองนึกภาพตามจากเส้นทางขับรถผ่านโรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ ถ้าสังเกตดีๆ ตรงกำแพงที่มีงานศิลปะบนผนัง ซึ่งเป็นผลงานจากกิจกรรม “ศิลปะกับการส่งเสริมสุขภาพจิตนานาชาติ” โดยศิลปินที่มีชื่อเสียงทั้งชาวไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ได้มาร่วมขีดเขียนรูป และเป็นการสร้างสีสันให้กับเมืองสงขลา
 
จนต่อมาได้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดของกลุ่มคน “นักเซลฟี่” ที่รักในงานศิลปะ ทั้งยังเป็นการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับเมืองสงขลา ที่สำคัญยังทำให้ผู้ป่วยได้เห็นภาพวาดสีสวยงาม จนสามารถช่วยผ่อนคลายความเจ็บปวด สร้างขวัญและกำลังใจที่ดีต่อผู้ป่วย และญาติผู้ป่วยได้อีกทางหนึ่ง
 


 
จนเมื่อเดินทางผ่านภาพวาดบนกำแพงมาเรื่อยๆ ก็จะเห็นเป็นชุมชนเล็กๆ ตั้งอยู่ก่อนขึ้นไปทางวัดเขาเก้าแสน ชุมชนนี้มีชื่อว่า “ชุมชนเก้าเส้ง” หากเดินทางมาถึงช่วงเย็นๆ ก็จะเห็นได้ว่ามีบรรดาพ่อค้าแม่ขาย ตั้งแผงขายอาหารทะเลทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา กันเรียงรายตลอดข้างทาง เพราะชุมชนแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการทำประมงเป็นชีวิตจิตใจ
 




 
ไม่รอช้าขับรถต่อไปตามเส้นทางเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกไปยังวัดเขาเก้าแสน ซึ่งจุดเด่นที่นี่คือก้อนหินขนาดใหญ่ที่วางทับซ้อนกันอยู่ริมหน้าผา บนไหล่เขาเก้าเส้ง ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา นับเป็นภาพที่คุ้นชินตาของชาวสงขลามานานแสนนาน ว่าที่นี่คือตำนานที่คนสมัยโบราณเล่าขานต่อๆ กันมาว่า
 
“นายแรง” พ่อค้าเรือสำเภาผู้มีจิตศรัทธาอันแรงกล้า นำทรัพย์สินแก้วแหวนเงินทองมูลค่าประมาณ “เก้าแสนบาท” ในยุคนั้น เพื่อจะไปร่วมสร้างพระธาตุที่เมืองนครศรีธรรมราช แต่เมื่อมาถึงเมืองสงขลา กลับได้ทราบข่าวว่าพระธาตุเมืองคอน หรือพระธาตุยอดทอง ได้สร้างเสร็จเสียแล้ว นายแรงจึงตัดสินใจฝังสมบัติไว้ที่นี่ และอธิษฐานให้ยกหินก้อนใหญ่มาปิดเอาไว้
 


 
ว่ากันว่าก่อนตาย นายแรงได้ตั้งจิตอธิษฐานเทวดาฟ้าดินว่า คนที่จะมายกหินก้อนนี้ออกได้ต้องเป็นทายาทของตนเองเท่านั้น และจนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครมายก หรือผลักหินก้อนนี้ให้ตกลงทะเลไปได้ ชาวสงขลาจึงเรียกหินก้อนนี้ว่า “หัวนายแรง” และเรียกเนินเขาที่ทอดยาวลงสู่อ่าวสงขลาว่า “เก้าเส้ง” ซึ่งเพี้ยนมาจาก “เก้าแสน” นั่นเอง
 
สถานที่แห่งนี้จึงได้กลายมาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คนทั่วไปให้ความเคารพบูชา ทำให้เนื้อหาตำนาน และสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์เอาไว้ กลายมาเป็นเสน่ห์ที่ใครๆ ก็อยากมาสักการะทวดนายแรง หรือลองผลักก้อนหินที่มีขนาดมหึมาที่นี่ดูสักครั้งในชีวิต
 







 
ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้เปลี่ยนจากเดิมไปมาก หลังจากที่ทาง จ.สงขลา ได้จัดสรรงบประมาณพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้ตัวเมืองอีกแห่งหนึ่ง นอกเหนือจากหัวนายแรงที่เป็นสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองอยู่ก่อนแล้ว ก็ได้จัดสร้างแนวทางเดินลัดเลาะไปตามเนินเขา หินผาน้อยใหญ่ที่เคียงคู่เรียงรายทอดยาวเลียบแนวชายหาด กลายเป็นจุดสนใจให้นักท่องเที่ยวทั้งใกล้ไกลได้เข้ามาสัมผัสทุกซอกทุกมุมได้อย่างสะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น 
 
และที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่สุดพิเศษ สำหรับคู่รักที่จะมาถ่ายพรีเวดดิ้งบันทึกเรื่องราวของคู่รัก นอกจากนี้ยังเปิดพื้นที่ให้มีจุดชมวิว และมุมถ่ายภาพที่หลากหลาย ภายใต้สโลแกน “เก้าแสน แสนรัก@สงขลา”
 


 
--------------------------------------- 
เรื่อง/ภาพ สุชาดา ศรีสวัสดิ์
 
กำลังโหลดความคิดเห็น