xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ ภูเก็ตสั่งจัดการไกด์เถื่อนเข้ม หลังถูกเรียกร้องหนักชูป้ายประท้วงที่แหลมพรหมเทพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต สั่งลุยถูกจี้จัดการปัญหาไกด์เถื่อน หลังไกด์คนไทยสุดทน ยึดแหลมพรหมเทพ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ประท้วงไกด์เถื่อนชาวจีน ระบุเดือดร้อนหนักบริษัททัวร์เลือกใช้ไกด์เถื่อนแทนคนไทย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เพื่อหารือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ป้องกันจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบ และจับกุมไกด์เถื่อน 2 ราย

จากกรณีมีการการแชร์ภาพกลุ่มไกด์คนไทยถือป้ายประท้วงไกด์เถื่อนจีน ที่แหลมพรมเทพ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาแก้ไขความเดือดร้อน หลังไกด์เถื่อนเข้ามาแย่งงาน บริษัททัวร์ไม่จ้างไกด์คนไทย โดยเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.60 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคืบหน้าไป พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เกี่ยวกับเรื่องนี้

โดย ผกก.สภ.ฉลอง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.60 ตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมกับตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากนี้จะได้รายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบ รวมทั้งรายงานให้ทางจังหวัดทราบเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยเรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยทำความเข้าใจ และให้ทางผู้ที่มายืนถือป้ายได้กลับไปทำข้อเรียกร้องแล้วไปยื่นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ซึ่งปัญหาดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ปัญหาลักษณะนี้จะเกิดขึ้นในเมืองท่องเที่ยวหลายจังหวัด ทางตำรวจไม่ได้เพิกเฉยละเลยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่อง การจับกุมลักษณะนี้จะต้องเป็นความผิดซึ่งหน้า ส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกระบุว่าเป็นไกด์เถื่อนนั้นจะพูดคุยกับนักท่องเที่ยวในรถ ตรงนี้เราไม่มีหลักฐาน เมื่อลงจากรถก็จะให้ไกด์ไทยที่มีบัตรเป็นคนพูดคุย ทำให้ยากแก่การจับกุม

ด้าน พ.ต.ต.เอกชัย ศิริ สว.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยกลุ่มที่มายืนถือป้ายนั้นอ้างว่า บริษัททัวร์ไม่รับไกด์คนไทยทำงาน ทำให้ไกด์คนไทยตกงาน ซึ่งได้รวบรวมปัญหาทั้งหมดเพื่อหาแนวทางในการแก้ไข ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวไม่ได้ละเลยในการแก้ไขปัญหา มีการออกตรวจ รวมทั้งจับกุมตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวฯ มีผลการจับกุมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีกว่า 100 คดี

ขณะที่แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า เรื่องไกด์เถื่อนเข้ามาแย่งงานคนไทยที่เป็นปัญหาระดับชาติ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จะต้องนำไปหารือกับ รมว.การท่องเที่ยวฯ ให้แก้ไขปัญหา และดำเนินการเป็นนโยบายเป็นรูปธรรม ซึ่งในต่างประเทศเองก็มีการบริการท่องเที่ยว เช่น ที่ประเทศจีนที่เราไปเที่ยว ทัวร์ของเขาจะมีหัวหน้าทัวร์จากเมืองไทยนำลูกทัวร์ไป แต่เมื่อไปถึงเมืองจีน เขาจะมีไกด์จีน 1 คน มาดูแลเราตั้งแต่วันแรกจนจบทัวร์ และแต่ละเมืองจะมีมัคคุเทศก์อีก 1 คน มาเพิ่ม เพื่อที่จะอธิบายประวัติของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่ง ชอปปิ้งก็เป็นของคนจีน

ฉะนั้น นักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยก็ต้องมีกฎเกณท์เหมือนกันว่าเมื่อกรุ๊ปทัวร์ต่างชาติมา จะมีไกด์ของเขาจากต้นทาง 1 คน เมื่อมาถึงไทยจะมีไกด์ไทยดูแลตั้งแต่ลงเครื่องจนกลับ 1 คน และเมื่อมาถึงภูเก็ต ก็จะต้องมีไกด์ท้องถิ่นที่รู้เรื่องประวัติศาสตร์ และสถานที่ท่องเที่ยวดูแลอีก 1 คน จึงจะถูกต้อง ไม่ใช่เป็นไกด์จีนทำหน้าที่ทั้งหมด แล้วคนไทยจะได้อะไร แถมอธิบายประวัติศาสตร์ผิดๆ ให้เสื่อมเสียประเทศไทย

รวมทั้งพานักท่องเที่ยวไปซื้อของราคาแพง ทำให้เสียภาพลักษณ์ของเมืองไทย มีคนได้ประโยชน์ไม่กี่คน ผลเสียตกประเทศไทย ประเทศไทยได้แต่ตัวเลข ทุกอย่างเป็นของพวกเขาหมด ธรรมชาติก็ทรุดโทรม ไม่คุ้มค่า แต่ทุกคนหลงประเด็นหลงปลื้มกับตัวเลขนักท่องเที่ยว และคำนวณรายได้ในอากาศ ถือเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนต้องดูแลประเทศไทย และผลประโยชน์ของคนไทย

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดกระแสการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคล รวมทั้งไกด์คนไทยเพื่อเรียกร้องให้มีการจัดการไกด์เถื่อนอย่างจริงจัง ล่าสุด นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้ นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช ปลัดจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบการกระทำผิดแรงงานต่างด้าวจังหวัดภูเก็ต นายดนัย ใจแข็ง ปลัดอำเภอเมืองภูเก็ต นายธงไชย รัตนเดช ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ต และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดอำเภอเมืองภูเก็ต ที่ 1 ออกตรวจการปฏิบัติหน้าที่มัคคุเทศก์ที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยตั้งจุดตรวจจุดสกัดชั่วคราวที่ริมถนนศรีสุทัศน์ ทางไปเกาะสิเหร่ ม.1 ต.รัษฎา. อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต

สำหรับผลการตั้งจุดตรวจ ปรากฏว่า พบบุคคลซึ่งไม่มีสถานะทางทะเบียนทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จำนวน 2 ราย ประกอบด้วน 1.นายธวัชชัย แซ่หลี อายุ 22 ปี และ 2.นายปี แสงเมือง อายุ 30 ปี จึงได้จับกุมผู้กระทำความผิด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นบุคคลประกอบอาชีพมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ เมืองภูเก็ต

ทั้งนี้ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการต่อบริษัทที่ว่าจ้างบุคคลดังกล่าวเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยว กับทั้งจะได้ดำเนินการแจ้งสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อบริษัทฯ ที่ว่าจ้างบุคคลทั้งสอง ตามอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น