พัทลุง - กระแสลมกระโชกแรงในพื้นที่พัทลุง หนุนน้ำจากทะเลสาบสงขลา หลากท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะที่อ่างเก็บน้ำต้องเร่งระบายน้ำออก และเตรียมรับมือฝนที่กำลังจะตกในรอบใหม่อีกครั้ง
วันนี้ (20 ธ.ค.) กระแสลมกระโชกแรงในพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลา ของจังหวัดพัทลุง ใน 5 อำเภอ ยังคงมีระดับที่แรงขึ้น โดยเฉพาะในวันนี้ลมยังคงพัดแรงกว่าเมื่อวาน และได้หนุนน้ำในทะเลสาบขึ้นมาหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มริมทะเลสาบสงขลา ท้องที่ ม.9 ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง น้ำในทะเลสาบถูกกระแสลมหนุนอัดขึ้นมาท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 15 ครอบครัว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ในพื้นที่ดังกล่าวระดับน้ำได้ลดลงเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ในวันนี้ลมที่กระโชกแรงตั้งแต่ช่วงสาย ทำให้มีน้ำในทะเลสาบขึ้นมาท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว
ในขณะที่พื้นที่ริมป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัดพัทลุง ที่มีการสร้างอ่างเก็บน้ำ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำป่าพะยอม อ่างเก็บน้ำคลองป่าบอน และอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง ทั้ง 3 แห่งกักเก็บน้ำในรอบก่อนจนล้นสปีลเวย์ และปริมาณน้ำไหลลงอ่างยังไหลลงมาเป็นจำนวนมากจากป่า ทำให้ในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูระบายน้ำเพิ่ม โดยเฉพาะที่บริเวณอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ทำให้มีน้ำล้นสปีลเวย์อยู่ที่ 30 ซม.และยังมีน้ำไหลลงอ่าง 2 ซม.ต่อ 1 นาที ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเปิดปะตูด้านล่างของอ่างเพิ่มจากเดิมที่เปิดอยู่ 15 ซม.เป็น 30 ซม. เพื่อระบายน้ำออก และเตรียมรับมือฝนที่กำลังจะตกในรอบใหม่อีกครั้ง
ในขณะที่ผู้สื่อข่าวออกสำรวจล่าสุดในพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลา ตั้งแต่อำเภอควนขนุน จนถึงอำเภอปากพะยูน พบว่า ชาวบ้านเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างวัว และควาย ยังคงพักสัตว์เลี้ยงไว้บนถนน เนื่องจากเกรงว่าหากย้ายสัตว์ลงไปหากินตามทุ่งหญ้า หรือนำควายออกไปหากินตามป่าพรุที่ไกลออกไป หากฝนตกหนัก และมีพายุเข้าจะทำให้ต้อนควายขึ้นกลับมาด้วยความยากลำบาก และเสี่ยงที่ควายตัวเล็กจะหมดแรง และจมน้ำตายได้ จึงต้องพักเลี้ยงไว้บนถนนต่อไป แม้หญ้าเลี้ยงสัตว์จะมีน้อย แต่ก็จำเป็นต้องประคับประคองให้ผ่านพ้นวิกฤตฤดูฝนต่อไป
