ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ปิดตำนาน “เก่ง X Factor” เจ้าของสถานบันเทิงชื่อดังย่านกลางเมืองภูเก็ต ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่ไม่ยอมแพ้ ออกตามล่าฝัน ทำตัวเองคนรอบข้างให้มีความสุข ขอขึ้นเวทีประกวดร้องเพลง เพื่อสู้โรคร้าย ก่อนจะสาย เพราะเชื่อมะเร็งเป็นโรคที่กลัวความสุข แต่สุดท้ายเจ้าโรคร้ายไม่ยอมหยุดรุกคืบคร่าชีวิตหน้าตาเฉย ครอบครัว เพื่อนฝูงสุดเศร้าแม้วาระสุดท้ายยังสู้
คงไม่มีใครอยากให้เกิดวันนี้ขึ้น วันที่ ครอบครัว เพื่อนฝูง แฟนคลับ ต่างก็ต้องสูญเสียคนอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ 7 ธ.ค. 60 เหมือฟ้าผ่าลงมากลางใจพี่น้อง เพื่อนฝูง คนในครอบครัว “เก่ง X Factor” จักรกฤษณ์ ศิริยงวัฒนา เจ้าของธุรกิจสถานบันเทิงกลางเมืองภูเก็ต เจ้าของวลีเด็ด “มะเร็งกลัวความสุข เมื่อรักษาไม่หายก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ ” แต่สุดท้ายการต่อสู้ของ “เก่ง X Factor” กับโรคร้ายก็จบลง เมื่อมะเร็งระยะสุดท้าย ลามไปถึงกระดูกคอ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยครอบครัวนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา วัดแม่พระลูกประคำ กาลหว่าร์ กรุงเทพมหานครฯ
"เก่ง" จักรกฤษณ์ ศิริยงวัฒนา อายุ 43 ปี เข้าประกวดร้องเพลงในรายการ The X Factor Thailand ทางช่องเวิร์คพอยท์ ทำเอาทั้งคนดู และ กรรมการถึงกับร้องไห้ หลังจากเขาร้องเพลง You Raise Me Up พร้อมบอกว่า เวทีนี้เป็นเวทีแรกและอาจจะเวทีสุดท้ายของตัวเอง เพราะตัวเองกำลังป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ ระยะสุดท้าย ซึ่งได้กระจายไปยังปอดและตับแล้ว จึงอยากใช้โอกาสที่เหลือได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและมีความสุข เพื่อต่อสู้กับโรคร้ายที่กำลังคุกคาม คิดว่าสิ่งมะเร็งกลัวคือ ความสุข เพราะถ้าเราเครียดก็จะทำให้อาการแย่ลง จึงขอใช้ชีวิตให้มีความสุขและขอทำในสิ่งที่ตัวเองรัก จึงขอออกล่าฝันและทำในสิ่งที่ตัวเองรักเป็นครั้งสุดท้าย
“สำหรับ เก่ง จักรกฤษณ์ เป็นคนกรุงเทพ เริ่มเข้ามาทำธุรกิจสถานบันเทิง ภายใต้ชื่อ “ร้านเพลินจิต” เมื่อประมาณ 8 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนภูเก็ต และ นักท่องเที่ยว เป็นนักธุรกิจคนรุ่นใหม่ โดยรู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายเมื่อต้นปี 2559 แต่หลังจากรู้ตัว ว่าเป็นมะเร็งก็ไม่ได้หยุดที่จะต่อสู้ ยังใช้ชีวิตปกติ ทั้งดูแลธุรกิจ ดูแลครอบครัว และดูแลลูกน้องอีกหลายชีวิต” นี้คือสิ่งที่น้องสาวและเพื่อนเล่าให้กับผู้สื่อข่าวได้ทราบ และยังได้กล่าวต่อว่า
“แม้จะป่วยหนัก แต่ “เก่ง” ยังเดินตามหาฝัน คือ อยากร้องเพลงซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบ และ รู้ว่า เสียงเพลงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถสร้างรอยยิ้ม สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างร้องยิ้มให้ทุกคนได้ แม้แต่ตัวของคนร้องเอง และในที่สุด เก่ง ก็ทำสำเร็จ แม้จะไม่ได้แชมป์ แต่ก็สามารถเข้าไปถึงรอบ 2 ได้ แม้ว่าวันนั้นเป็นวันที่เค้าอาการแย่ลง แต่ “เก่ง” ก็ทำอย่างเต็มที่ สู้เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าชีวิตคนเราจะหยุดสู้ไม่ได้ แม้รู้ว่าจะต้องตายอีกไม่กี่วันก็ต้องสู้ จึงอยากให้ทุกคนลุกขึ้นมาสู้กับโรคร้าย เพราะมะเร็งเป็นโรคที่กลัวความสุข
แต่สุดท้าย เก่ง ก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะโรคมะเร็งได้ หลังภาวะเศรษฐกิจทรุดตัว ก็ต้องปิดร้านลง ทำให้กำลังใจที่เคยมีก็เริ่มลดลง เปิดโอกาสโรคร้ายเข้ามาคุกคาม แม้ว่าจะพยายามต่อสู้อย่างเต็มที่ แม้ลุกขึ้นไม่ได้ก็พยายามที่จะลุกขึ้น เพราะไม่อยากนอนติดเตียง กินไม่ได้ก็พยายามที่จะกินเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเพื่อต่อสู้กับโรคร้าย จนนาทีสุดท้าย ที่เก่งจากไปอย่างสงบหลังกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพียงแค่คืนเดียว ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวและเพื่อนฝูง
จนถึงวันนี้สิ่งที่ “เก่ง” เหลือไว้ให้ทุกคนจดจำ และ ร่วมเขียนคำไว้อาลัยกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล คือ เรื่องของความเป็นนักสู้ ความไม่ยอมแพ้แก่โรคร้าย ที่ เก่ง สามารถยื้อชีวิตอยู่ได้จนเกือบ 2 ปี หลังทราบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งร้าย ที่หมอยังไม่กล้ารับรองว่าจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้กี่วัน กี่เดือน กี่ปี แต่สิ่งที่ “เก่ง” อยากให้คนที่ป่วยเป็นโรคนี้ทำ คือ “อย่ายอมแพ้ จงใช้ชีวิตให้มีความสุข เพราะโรคนี้เป็นโรคที่กลัวความสุข”
คงไม่มีใครอยากให้เกิดวันนี้ขึ้น วันที่ ครอบครัว เพื่อนฝูง แฟนคลับ ต่างก็ต้องสูญเสียคนอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ 7 ธ.ค. 60 เหมือฟ้าผ่าลงมากลางใจพี่น้อง เพื่อนฝูง คนในครอบครัว “เก่ง X Factor” จักรกฤษณ์ ศิริยงวัฒนา เจ้าของธุรกิจสถานบันเทิงกลางเมืองภูเก็ต เจ้าของวลีเด็ด “มะเร็งกลัวความสุข เมื่อรักษาไม่หายก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ ” แต่สุดท้ายการต่อสู้ของ “เก่ง X Factor” กับโรคร้ายก็จบลง เมื่อมะเร็งระยะสุดท้าย ลามไปถึงกระดูกคอ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยครอบครัวนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา วัดแม่พระลูกประคำ กาลหว่าร์ กรุงเทพมหานครฯ
"เก่ง" จักรกฤษณ์ ศิริยงวัฒนา อายุ 43 ปี เข้าประกวดร้องเพลงในรายการ The X Factor Thailand ทางช่องเวิร์คพอยท์ ทำเอาทั้งคนดู และ กรรมการถึงกับร้องไห้ หลังจากเขาร้องเพลง You Raise Me Up พร้อมบอกว่า เวทีนี้เป็นเวทีแรกและอาจจะเวทีสุดท้ายของตัวเอง เพราะตัวเองกำลังป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ ระยะสุดท้าย ซึ่งได้กระจายไปยังปอดและตับแล้ว จึงอยากใช้โอกาสที่เหลือได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและมีความสุข เพื่อต่อสู้กับโรคร้ายที่กำลังคุกคาม คิดว่าสิ่งมะเร็งกลัวคือ ความสุข เพราะถ้าเราเครียดก็จะทำให้อาการแย่ลง จึงขอใช้ชีวิตให้มีความสุขและขอทำในสิ่งที่ตัวเองรัก จึงขอออกล่าฝันและทำในสิ่งที่ตัวเองรักเป็นครั้งสุดท้าย
“สำหรับ เก่ง จักรกฤษณ์ เป็นคนกรุงเทพ เริ่มเข้ามาทำธุรกิจสถานบันเทิง ภายใต้ชื่อ “ร้านเพลินจิต” เมื่อประมาณ 8 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนภูเก็ต และ นักท่องเที่ยว เป็นนักธุรกิจคนรุ่นใหม่ โดยรู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายเมื่อต้นปี 2559 แต่หลังจากรู้ตัว ว่าเป็นมะเร็งก็ไม่ได้หยุดที่จะต่อสู้ ยังใช้ชีวิตปกติ ทั้งดูแลธุรกิจ ดูแลครอบครัว และดูแลลูกน้องอีกหลายชีวิต” นี้คือสิ่งที่น้องสาวและเพื่อนเล่าให้กับผู้สื่อข่าวได้ทราบ และยังได้กล่าวต่อว่า
“แม้จะป่วยหนัก แต่ “เก่ง” ยังเดินตามหาฝัน คือ อยากร้องเพลงซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบ และ รู้ว่า เสียงเพลงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถสร้างรอยยิ้ม สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างร้องยิ้มให้ทุกคนได้ แม้แต่ตัวของคนร้องเอง และในที่สุด เก่ง ก็ทำสำเร็จ แม้จะไม่ได้แชมป์ แต่ก็สามารถเข้าไปถึงรอบ 2 ได้ แม้ว่าวันนั้นเป็นวันที่เค้าอาการแย่ลง แต่ “เก่ง” ก็ทำอย่างเต็มที่ สู้เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าชีวิตคนเราจะหยุดสู้ไม่ได้ แม้รู้ว่าจะต้องตายอีกไม่กี่วันก็ต้องสู้ จึงอยากให้ทุกคนลุกขึ้นมาสู้กับโรคร้าย เพราะมะเร็งเป็นโรคที่กลัวความสุข
แต่สุดท้าย เก่ง ก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะโรคมะเร็งได้ หลังภาวะเศรษฐกิจทรุดตัว ก็ต้องปิดร้านลง ทำให้กำลังใจที่เคยมีก็เริ่มลดลง เปิดโอกาสโรคร้ายเข้ามาคุกคาม แม้ว่าจะพยายามต่อสู้อย่างเต็มที่ แม้ลุกขึ้นไม่ได้ก็พยายามที่จะลุกขึ้น เพราะไม่อยากนอนติดเตียง กินไม่ได้ก็พยายามที่จะกินเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเพื่อต่อสู้กับโรคร้าย จนนาทีสุดท้าย ที่เก่งจากไปอย่างสงบหลังกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพียงแค่คืนเดียว ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวและเพื่อนฝูง
จนถึงวันนี้สิ่งที่ “เก่ง” เหลือไว้ให้ทุกคนจดจำ และ ร่วมเขียนคำไว้อาลัยกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล คือ เรื่องของความเป็นนักสู้ ความไม่ยอมแพ้แก่โรคร้าย ที่ เก่ง สามารถยื้อชีวิตอยู่ได้จนเกือบ 2 ปี หลังทราบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งร้าย ที่หมอยังไม่กล้ารับรองว่าจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้กี่วัน กี่เดือน กี่ปี แต่สิ่งที่ “เก่ง” อยากให้คนที่ป่วยเป็นโรคนี้ทำ คือ “อย่ายอมแพ้ จงใช้ชีวิตให้มีความสุข เพราะโรคนี้เป็นโรคที่กลัวความสุข”
