ตรัง - หนุ่มกู้ภัยเทศบาล ต.คลองเต็ง อ.เมืองตรัง ซึ่งถูกรถชนขณะลงไปช่วยเหลือคนขี่รถ จยย.ล้มลง จนต้องสูญเสียเพื่อนไปถึง 4 ชีวิต และตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัส วอนสังคมให้การดูแล เพราะกำลังลำบากอย่างหนัก
วันนี้ (18 ธ.ค.) นายพิชัย ทองรุ่ง หรือน้องปอ อายุ 22 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลตำบลคลองเต็ง อ.เมือง จ.ตรัง กล่าวว่า หลังจากตนเอง และเพื่อนร่วมอุดมการณ์อีก 7 คน ประสบอุบัติเหตุถูกรถกระบะพุ่งชนรถตู้หน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน หรือรถกู้ชีพฉุกเฉินของเทศบาลตำบลคลองเต็ง บนถนนเพชรเกษม หมายเลข 4 ช่วงขาออกเมืองตรัง-คลองเต็ง หมู่ที่ 9 บ้านปลายหมัน ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง ทำให้มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ขณะที่ทั้งหมดกำลังลงไปช่วยเหลือคนขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ได้ล้มลง และได้รับบาดเจ็บจากการเฉี่ยวชนราวสะพานคลองปลายหมัน เมื่อช่วงดึกของวันที่ 7 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ทำให้ตนเอง และเพื่อนอีก 2 คน ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตรังเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน โดยตนบาดเจ็บที่ไหปลาร้าด้านขวาหัก กระดูกสันหลังแตก และศีรษะแตกเย็บกว่า 10 เข็ม จนถึงขณะนี้เวลาผ่านไปเกือบ 7 เดือนแล้ว แพทย์ได้ให้ตนกลับมารักษาตัวที่บ้านเพื่อรอให้เส้นประสาทปรับสภาพเป็นปกติ พร้อมวินิจฉัยว่า อาจต้องใช้เวลาอีกเป็นปีกว่าทุกอย่างจะเข้าที่ แต่ก็ไม่ยืนยันว่าจะสมบูรณ์ 100% หรือไม่ ทำให้ตนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะเมื่อถูกรถชนในครั้งนั้นก็ต้องตกงาน จากเดิมที่ไปเป็นพนักงานบริษัทรายวัน มีรายได้วันละ 200-300 บาท
กระทั่งปัจจุบัน ตนต้องตกเป็นภาระของผู้เป็นแม่ที่มีอาชีพรับจ้างกรีดยาง และมีรายได้แค่เพียงเล็กน้อยวันละ 100-200 บาท หรือหากวันไหนฝนตกก็แทบไม่มีรายได้เลย แถมมีภาระต้องดูแลน้าสาว ซึ่งเป็นผู้พิการทางสมองอีก 1 คน รวมเป็น 3 ชีวิต อีกทั้งทุกสัปดาห์ตนยังต้องเดินทางไปโรงพยาบาลตามนัด และซื้อเวชภัณฑ์พยาบาลอีกเพิ่มเติม เนื่องจากขณะนี้ขาทั้ง 2 ข้างยังไม่มีแรง ส่วนเวลาปัสสาวะก็ยังไม่เป็นปกติ ต้องใช้วิธีการสวนทุกครั้ง ทำให้มีค่าใช้จ่ายอย่างน้อยๆ สัปดาห์ละ 1,000 บาท และลำพังแม่คนเดียวต้องแบกรับภาระทั้งหมด จึงส่งผลให้ตนรู้สึกไม่สบายใจอย่างหนัก
ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเหตุมาตนก็ได้รับแค่เงินช่วยเหลือจากผู้บริจาค ซึ่งทางหน่วยกู้ภัยเทศบาลตำบลคลองเต็ง แบ่งมาให้ จำนวน 23,000 บาท จากนั้นก็ไม่มีหน่วยงานใดให้การช่วยเหลืออีกเลย ปล่อยให้ตน และครอบครัวต้องต่อสู้ชะตากรรมกันเอง จึงอยากวอนให้ผู้ใจบุญได้ช่วยเหลือด้วย และขอเพียงแค่ให้หายเป็นปกติ ซึ่งหลังจากนั้น ตนก็พร้อมจะสู้ใหม่ อย่างไรก็ตามการที่ตนเองยอมใช้เวลาว่างอาสาไปเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ก็เพราะใจรัก อยากช่วยเหลือสังคม แต่เป็นเรื่องที่น่าน้อยใจว่า ทำไมการช่วยเหลือผู้อื่น และเมื่อตนเองได้รับความทุกข์ร้อน กลับไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือเลย
ด้าน นางสมัชญา บรรณกิจ อายุ 50 ปี แม่ของน้องปอ กล่าวว่า ลูกชายเป็นเด็กจิตใจดี มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ปกติเป็นนักศึกษา ม.รามคำแหง ชั้นปีที่ 3 โดยเรียน และทำงานไปด้วย หากมีเวลาว่างก็จะไปช่วยเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เทศบาลตำบลคลองเต็ง ซึ่งตนเองก็ไม่เคยห้ามปราม เพราะคิดว่าลูกชายชอบ แต่เมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นก็อยากให้ผู้เกี่ยวข้องมาดูแลกันบ้าง เพราะครอบครัวกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากมีรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย 3 ชีวิต ที่ตนเองต้องรับผิดชอบ และตอนนี้บอกตรงๆ ว่ารู้สึกท้อมากๆ
สำหรับผู้ใดที่มีจิตศรัทธาสามารถโอนเงินให้การช่วยเหลือน้องปอ ได้ที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ ชื่อ นางสมัชญา บรรณกิจ เลขที่บัญชี 486-0-35174-5
