บุกจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ย่านเขาหลัก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังพังงา

พังงา - ตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ร่วมเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา ลงพื้นที่ จ.พังงา ลุยจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ย่านการค้าเขาหลัก

วันนี้ (17 ธ.ค.) ร.ต.อ.สยามรัตน์ ชนะจน ร.ต.อ.บุณยสิทธิ์ สุทธิทัศนพงษ์ รอง สว.กก.4 บก.ปอศ. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบจับกุมร้านค้าต่างๆ ในพื้นที่ย่านเขาหลัก ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ทั้งหมดกว่า 10 ร้าน เมื่อทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบได้มีแรงงานต่างด้าวที่กำลังยื่นขายของให้นักท่องเที่ยว วิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ไปทางหลังร้าน และทางหน้าร้านด้วยอาการแตกตื่น

ตรวจพบสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนมาก เช่น กระเป๋า แว่นตา เสื้อผ้า ลำโพง หูฟัง ยี่ห้อต่างๆ พร้อมจับกุม น.ส.รินยา สุริวรรณ์ อายุ 59 ปี พร้อมด้วยของกลางแว่นตาปลอมเครื่องหมายการค้า เรย์แบน จำนวน 47 อัน นางบุญโรม ปะระฆัง อายุ 37 ปี พร้อมด้วยของกลาง 16 ชิ้น เป็นสร้อยคอ และกำไลข้อมือ ปลอมเครื่องหมายการค้า ทิฟฟานี่ จำนวน 16 ชิ้น Mr.TI KA RAM ชาวพม่า อายุ 38 ปี พร้อมของกลาง กางเกง ปลอมเครื่องหมายการค้า ไนกี้ จำนวน 24 ชิ้น กางเกง ปลอมเครื่องหมายการค้า อาดิดาส จำนวน 23 ชิ้น และยังได้ตรวจยึด กางเกง เสื้อ ปลอมเครื่องหมายการค้า ในขณะที่เจ้าของร้าน และผู้ดูแลร้านเป็นแรงงานต่างด้าวไหวตัวทันหลบหนีไปได้ สามารถยึด กางเกง เสื้อ ปลอดเครื่องหมายการค้า จำนวน 74 ชิ้น หูฟัง ลำโพง จำนวน 54 ชิ้น และหมวก จำนวน 67 ใบ กระเป๋า จำนวน 67 ใบ จากการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากชุดปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ บก.ปอศ. ได้รับแจ้งว่า พื้นที่ย่านการค้าเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีการลักลอบจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และสินค้าลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าให้กับนักท่องเที่ยวมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี

เจ้าหน้าที่(บก.ปอศ.)จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขาหลัก เพื่อดำเนินคดีในข้อหา มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า ปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ซึ่งมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้มีแหล่งข่าวระบุว่า การเปิดร้านขายสินค้นผิดกฎหมายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และสินค้าลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้า โดยมีกลุ่มของแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายนับพันคนเข้ามาอาศัย และจะแย่งอาชีพคนไทย และทำหน้าที่เป็นเจ้าของร้าน และผู้ดูแลร้านค้าผิดกฎหมายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และจะมีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าพนักงานของรัฐกว่า 20 หน่วย เข้ามาเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อแลกกับการไม่ถูกจับกุม ซึ่งเป็นเงินหลายล้านบาทต่อเดือน จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลางลงมาดำเนินการแก้ปัญหาโดยด่วน