xs
xsm
sm
md
lg

ชีวิตใหม่ของ “โคล่า” กับขาเทียมสุดไฮเทคตัวแรกของโลก หลังเพื่อนบ้านฟันขาทิ้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “โคล่า” จากสุนัขเคราะห์ร้ายที่ถูกเพื่อนบ้านตัดขาหน้าทั้งสองข้างทิ้ง วันนี้กลายเป็นสุนัขตัวแรกของโลกที่ได้รับขาหน้าเทียมสุดไฮเทค มีลักษณะการออกแบบเดียวกับขาเทียมที่ใช้ในการแข่งขันพาราลิมปิก ขณะที่เจ้าโคล่าเองก็เข้ากับขาคู่ใหม่ได้อย่างดี

จากกรณีเมื่อประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมา เกิดเหตุ เจ้าโคล่า ลูกสุนัข วัย 6 เดือน ไปกัดรองเท้าของเพื่อนบ้านจนเป็นเหตุให้เพื่อนบ้านใช้ของมีคมฟันจนขาขาดทั้ง 2 ข้าง โดยเหตุดังกล่าวเกิดในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ จนกลายเป็นข่าวโด่งดัง หลังมีการโพสต์ข้อความพร้อมภาพผ่านทางเฟซบุ๊ก ส่วน เจ้าโคล่า ก็กลายเป็นสุนัขพิการเนื่องจากขาหน้าขาดทั้ง 2 ข้าง

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ เจ้าโคล่า ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก นางจิลล์ ดัลลีย์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (Soi Dog Foundation) ซึ่งเป็นมูลนิธิที่มุ่งช่วยเหลือและดูแลสุนัข และแมวที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วย และนำ เจ้าโคล่า มายังมูลนิธิฯ ที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อดูแลรักษา เนื่องจากมีความรู้สึกผูกพัน เนื่องจากเธอเองก็สูญเสียขาทั้งสองข้างจากสภาวะโลหิตเป็นพิษ

หลังจากนำ เจ้าโคล่า มาดูแลรักษา นางจิลล์ ดัลลีย์ ได้ปรึกษานายแพทย์ เบงท์ โซเดอร์เบิร์ก ซึ่งเปิดศูนย์กายอุปกรณ์เสริมและเทียม (Scandinavian Orthopedic Laboratory) ในภูเก็ต และยังเป็นผู้บริหารศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านกายอุปกรณ์ที่ทันสมัยระดับโลก ณ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อหาทางในการสร้างขาเทียมให้แก่ เจ้าโคล่า ใหม่แทนขาเดิมที่เป็นล้อลาก ซึ่งคุณหมอเองก็ยินดีที่จะทดลองประดิษฐ์ให้

หลังจากใช้เวลาในการคิดค้นขาเทียมรูปแบบใหม่ โดยได้แนวคิดจากขาเทียมของนักวิ่งพาราลิมปิก จนประสบความสำเร็จโดยใช้เวลาคิดค้น และประดิษฐ์ขาเทียมคู่นี้ประมาณ 1 ปี เพื่อที่จะให้มีความใกล้เคียงกับขาเทียมของนักกีฬามืออาชีพที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกที่สุด

โดยใช้วัสดุเดียวกันคือ คาร์บอนไฟเบอร์ ใช้โครงสร้างแบบเดียวกัน และใช้ตัวรองรับแบบเดียวกัน ซึ่งทำให้การเคลื่อนไหวของโคล่ามีความยืดหยุ่นสูง สามารถวิ่ง และเล่นได้เหมือนสุนัขตัวอื่นๆ ถือว่าขณะนี้ โคล่า เป็นสุนัขตัวแรกที่สามารถกลับมาเดินสี่ขา ด้วยขาเทียมสุดไฮเทคที่มีการคิดค้นขึ้นมาใหม่ ภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (Soi Dog Foundation)
กำลังโหลดความคิดเห็น