xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ยะลาแถลงจับกุมผู้ต้องหาชิงทรัพย์ในพื้นที่ยะลา-ปัตตานี สารภาพก่อเหตุเพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ ในพื้นที่ จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี สารภาพก่อเหตุเพียบก่อนนำทรัพย์สินไปขาย และนำเงินใช้ส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายสิริวัติ รัตนงาม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ซอย 2 ถนนสะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์หลายเหตุในพื้นที่ จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี พร้อมเสื้อผ้า และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ

พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2560 เวลา 12.45 น. เกิดเหตุคนร้ายพยายามกระชากสร้อยคอทองคำของผู้เสียหาย ภายในร้านขายของชำเลขที่ 264 ถนนสวนขวัญเมือง อ.เมือง จ.ยะลา แต่ไม่สำเร็จ ผู้เสียหายจึงได้เข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
 

 
ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งความ พ.ต.อ.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลา จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวน ภ.จว.ยะลา ลงพื้นที่เพื่อติดตามคนร้าย และหาเบาะแส ซึ่งเมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนีก็พบผู้ต้องสงสัย จึงได้แจ้งไปยังจุดตรวจจุดสกัดต่างๆ ในพื้นที่เพื่อสังเกตรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 เวลา 00.10 น. เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีชมพูขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน บริเวณหอนาฬิกา ซึ่งตรงกับภาพวงจรปิด จึงได้ไล่ติดตาม จนสามารถควบคุมตัวได้บริเวณถนนธนวิถี และได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้นและตรวจสอบ โดยบุคคลดังกล่าวคือ นายสิริวัติ รัตนงาม ซึ่งให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง รวมทั้งยังให้การรับสารภาพว่าเคยก่อเหตุในลักษณะนี้ในพื้นที่ จ.ยะลา จำนวน 4 ครั้ง และในพื้นที่ จ.ปัตตานี จำนวน 3 ครั้ง

โดยทรัพย์สินที่ได้จากการก่อเหตุ หากก่อเหตุในพื้นที่ จ.ปัตตานี ก็จะนำมาขายในพื้นที่ จ.ยะลา และหากก่อเหตุในพื้นที่ จ.ยะลา ก็จะนำไปขายในพื้นที่ จ.ปัตตานี และเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สิน ก็จะนำมาใช้ส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ก็จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 

กำลังโหลดความคิดเห็น