นครศรีธรรมราช - สถานการณ์น้ำป่าทะลักหนัก จ่อหลากเข้าเมืองนครศรีธรรมราช ระดับน้ำในลุ่มน้ำท่าดีทำลายสถิติขึ้นสูงกว่า 6 เมตร ถนนไปสุราษฎร์ธานี ฉวาง ร่อนพิบูลย์ ถูกน้ำท่วมตัดขาด ส่วนเหตุน้ำป่าซัดรถบัสพลิกคว่ำที่สิชล พบผู้สูญหาย 2 รายเสียชีวิตแล้ว
วันนี้ (6 ธ.ค.) ที่บริเวณฝายท่าดี โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครศรีธรรมราช ต.กำแพงเซา อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นฝายตัวสุดท้ายที่กั้นน้ำก่อนเข้าสู่เขตเมืองนครศรีธรรมราช ระดับน้ำเหนือฝายสูงกว่า 6 เมตร และล่างฝายสูงกว่า 5 เมตร ซึ่งเป็นระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่จุดวัดระดับน้ำทางอุทกวิทยาที่สะพานท่าใหญ่ ต.ท่าดี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช มีระดับน้ำสูง 6 เมตร 10 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา
นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า ระดับน้ำท่วมสูงได้ตัดถนนหลายสายไม่สามารถใช้งานได้ เช่น สายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช-ฉวาง และนครศรีธรรมราช-ร่อนพิบูลย์
ส่วนบริเวณจุดเกิดเหตุรถบัสถูกน้ำซัดจนตกจากถนน ติดอยู่ในกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก บริเวณหน้าสถานสงค์เคราะห์คนไร้ที่พึ่ง ภาคใต้ ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ที่ติดอยู่ภายในรถออกมาได้อย่างปลอดภัยรวม 50 ราย เมื่อคืนที่ผ่านมา
ขณะที่ เมื่อช่วงเช้านี้ระดับน้ำได้ลดลงแล้ว แต่ผู้ที่สูญหาย 2 รายคือ นางจันทร์ คำแก้ว และ น.ส.มณี คำแก้ว ทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน และเป็นชาว อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ค้นหาพบศพแล้วทั้ง 2 ราย โดยถูกน้ำซัดไปไกลกว่า 1 กิโลเมตร
สำหรับรถบัสคันดังกล่าว ได้รับการจ้างเหมามาจากสุราษฎร์ธานี เพื่อไปร่วมงานศพในอำเภอท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างเดินทางกลับ ถึงจุดเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. คืนที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากผ่านถนน ทำให้รถเสียการทรงตัวและพลิกตกคูริมทางดังกล่าว
