นครศรีธรรมราช - สุดระทึก! 2 สามีภรรยานักท่องเที่ยวชาวอังกฤษล่องเรือยอชต์ออกจากชายฝั่ง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เครื่องยนต์ขัดข้องลอยลำอยู่กลางทะเลอ่าวไทย ท่ามกลางคลื่นลมแรง ล่าสุด ตำรวจน้ำปากพนังเข้าให้ความช่วยเหลือลากกลับฝั่งแล้ว
วันนี้ (4 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.บุญยรัตน์ วิทิพย์รอด อายุ 42 ปี ชาว อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เข้าขอความช่วยเหลือจาก พ.ต.ต.อนุสรณ์ สมุทนกิติศักดิ์ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โดยระบุว่า มีเรือยอชต์ชื่อ “เลดี้แคทธลีน” ตัวเรือสีขาวแถบน้ำเงิน ของนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 สามีภรรยาได้นำเรือออกจากริมฝั่งทะเลในพื้นที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อมุ่งหน้าไปยังประเทศมาเลเซีย แต่เครื่องยนต์เกิดเสีย และลอยลำอยู่กลางทะเลท่ามกลางคลื่นลมแรง ซึ่งการติดต่อทราบพิกัดครั้งสุดท้ายจากจีพีเอส ระบุว่า เรืออยู่บริเวณห่างจากฝั่งแม่น้ำปากพนังราว 35 ไมล์ทะเล
ต่อมา พ.ต.ต.อนุสรณ์ สมุทนกิติศักดิ์ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำปากพนัง ได้นำกำลังตำรวจน้ำ และชาวบ้านโครงการเพื่อนทะเลนำเรือออกไปช่วยเหลือเรือลำดังกล่าว ซึ่งต้องเดินทางนานกว่า 8 ชม. กระทั่งเมื่อช่วงเย็นของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้เจอเรือยอชต์ลอยอยู่ท่ามกลางคลื่นลม และสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้นำเชือกไปผูกที่หัวเรือยอชต์ แล้วใช้เรือตำรวจน้ำชักลากเพื่อนำกลับเข้าฝั่งที่สถานีตำรวจน้ำปากพนัง แต่ต้องลากเรือไปได้อย่างล่าช้า เนื่องจากคลื่นลมแรงสูงประมาณ 1 เมตร และมีฝนตกตลอดเวลา
น.ส.บุญยรัตน์ แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ทั้ง 2 คนเป็นนักท่องเที่ยว และเป็นสามีภรรยากัน ทราบเพียงชื่อเล่นว่า “เจน” และ “ฟิว” ซึ่งเป็นเครือข่ายของ Samui see sport ได้นำเรือออกจากหาดขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งผ่านไป 2 วัน ได้รับการประสานว่า เครื่องยนต์เรือเสียลอยอยู่กลางทะเลอ่าวไทย จนกระทั่งตำรวจน้ำสามารถเข้าให้การช่วยเหลือได้ดังกล่าว
ขณะที่ พ.ต.ต.อนุสรณ์ สมุทนกิติศักดิ์ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำปากพนัง ระบุว่า ชาวอังกฤษทั้ง 2 คน ทราบว่าเป็นนักธุรกิจ ได้ล่องเรือยอชต์ท่องเที่ยวไปทั่วโลก ซึ่งการออกช่วยเหลือต้องใช้เวลานานเพราะเป็นช่วงมรสุม มีคลื่นลมแรง และมีฝนตกในทะเล ซึ่งกว่าจะเข้าฝั่งได้ต้องใช้เวลาประมาณ 8 ชม. สาเหตุที่ต้องลอยอยู่กลางทะเลพบว่า เครื่องยนต์ของเรือเสีย และสมอเรือก็ขัดข้อง แต่โชคดีที่ฝรั่งทั้ง 2 คน ยังสามารถติดต่อกับภายนอกได้ ก่อนที่ตำรวจน้ำจะออกไปช่วยเหลือ ซึ่งคาดว่าทั้งคู่จะเข้าฝั่งราวช่วงตี 3 ของคืนนี้ และจะได้สอบถามให้ข้อมูลรายละเอียดอีกครั้ง
