ยะลา - ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ จ.ยะลา ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำ 2 สายหลักเริ่มลดลง แต่ยังคงล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมพื้นที่ติดริมแม่น้ำ ด้านเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหอมทองเร่งหาวิธีระบายน้ำออกจากสวน หวั่นหากท่วมนานอาจกระทบผลผลิตที่กำลังออกดอกผล
วันนี้ (2 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ จ.ยะลา ล่าสุดวันนี้ทางโครงการชลประทานจังหวัดปัตตานี ได้รายงานข้อมูลสถานภาพน้ำในแม่น้ำ 2 สายหลักที่ไหลผ่าน จ.ยะลา ได้แก่ แม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี ซึ่งปริมาณน้ำในแม่น้ำทั้ง 2 สายหลักได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ติดริมแม่น้ำทั้ง 2 สาย เนื่องจากปริมาณน้ำที่ยังคงมีอยู่จำนวนมาก
โดยในแม่น้ำสายบุรี ปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน อ.เมืองยะลา ซึ่งล้นตลิ่งอยู่นั้นถือว่ายังคงวิกฤติ สำหรับพื้นที่ติดริมแม่น้ำ ทำให้ยังคงมีน้ำเข้าท่วมในพื้นที่ ต.ท่าสาป ต.ยุโป ต.ตาเซะ อ.เมืองยะลา ส่วนใน อ.รามัน ซึ่งมีแม่น้ำสายบุรีไหลผ่านนั้น ยังคงมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมคือ ต.อาซ่อง ต.ท่าธง ต.ตะโล๊ะหะลอ
ซึ่งมวลน้ำจากแม่น้ำทั้ง 2 สายหลักจะไหลไปสู่ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ และจะทำให้พื้นที่ปัตตานีถูกน้ำท่วมยาวนานขึ้น และหากเกิดน้ำทะเลหนุน ก็อาจจะทำให้ระดับที่ท่วมอยู่แล้วนั้นเพิ่มสูง ขณะที่ จ.ยะลา เองในวันนี้ สถานการณ์ในหลายพื้นที่ เช่น เขตเทศบาลนครยะลา ระดับน้ำได้ลดลงบ้างแล้ว เนื่องจากฝนหยุดตกทิ้งช่วงเป็นเวลานาน และหากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักจนทำให้เกิดน้ำท่วมที่ จ.ยะลา ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีพื้นที่ประสบปัญหาทั้งหมด 8 อำเภอ โดยพื้นที่ทางการเกษตรจำนวนมากถูกน้ำท่วม เช่นเดียวกับที่สวนกล้วยหอมทองของ นายปิยวัตร บุญช่วย เกษตรกรชาวสวนหมู่ 1 บ้านยุโป ต.ยูโป อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งได้ลงทุนทำสวนกล้วยหอมทองในพื้นที่ 10 ไร่ ที่เป็นพื้นที่ปลูกยางพาราเก่า และเปลี่ยนแนวทางในการทำเกษตรมาปลูกกล้วยหอมทอง จำนวนกว่า 4,000 ต้น
นายปิยวัตร บุญช่วย เจ้าของสวน เปิดเผยว่า ได้ทำการปลูกกล้วยหอมทองมาเป็นระยะเวลา 6 เดือนแล้ว โดยมีจำนวน 2,000 ต้นที่กำลังจะให้ผลผลิต และอีก 2,000 ต้นที่เพิ่งปลูกได้ไม่นาน ในส่วนของต้นที่กำลังให้ผลผลิตจะออกสู่ท้องตลาดในช่วงตรุษจีนของปีหน้า แต่ก็ต้องมาประสบปัญหาสวนกล้วยหอมทองถูกน้ำเข้าท่วมมาเป็นเวลาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว ซึ่งขณะนี้ทำได้เพียงรอให้ระดับน้ำในสวนลดลง เนื่องจากพื้นที่โดยรอบติดกับแม่น้ำปัตตานี ที่ปีนี้มีน้ำมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดปัญหาน้ำทะลักเข้าท่วมสวนกล้วยหอมทอง
“ตอนนี้กำลังหาวิธีการนำน้ำออกจากสวน จะใช้เครื่องสูบน้ำเพื่อทำการสูบน้ำออกจากในสวน ก็เกรงว่าจะไปทำให้เกิดปัญหาเข้าท่วมในพื้นที่สวนใกล้เคียง ซึ่งหากระดับน้ำยังไม่ลดลงหรือลดลงช้า อาจจะทำให้ต้นกล้วยเกิดปัญหารากเน่า และส่งผลกระทบจากผลของกล้วยหอมที่กำลังจะได้รับผลผลิต ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงของเทศกาลตรุษจีนในปีหน้า” นายปิยวัตร กล่าว
ทั้งนี้ นายปิยวัตร บุญช่วย เจ้าของสวนกล้วยหอมทอง ยังระบุด้วยว่า หากเกิดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในครั้งนี้ ก็จะได้รับความเสียหายเป็นมูลค่าหลายแสนบาท ซึ่งก็ต้องหาวิธีการดำเนินการต่อไป เนื่องจากสวนกล้วยหอมทองที่ได้ลงทุนลงแรงปลูกนั้น เป็นการทำเกษตรภายในครอบครัว และทำตามแนวทางการเกษตรพระราชดำริ ให้เป็นสวนกล้วยปลอดสารพิษ