xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤตซ้อน! 500 ครอบครัวริมทะเลสาบสงขลา จ.พัทลุง อพยพหนีน้ำแต่ไร้เต็นท์รองรับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
พัทลุง - ชาวบ้านริมทะเลสาบสงขลา จ.พัทลุง 500 ครอบครัว ต้องอพยพหนีน้ำ แต่ยังไม่สามารถหาเต็นท์มารองรับได้ ขณะที่ในพื้นที่ต่างๆ ยังมีน้ำท่วมหนัก

วันนี้ (1 ธ.ค.) สถานการณ์น้ำพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง ยังมีน้ำท่วมหนักเกือบทุกอำเภอ โดยอำเภอริมทะเลสาบสงขลา 5 อำเภอ ประกอบด้วย ต.ทะเลน้อย ต.พะนางตุง อำเภอควนขนุน ต.จองถนน ต.หานโพธิ์ อำเภอเขาชัยสน ต.ลำปำ อำเภอเมือง ต.นาปะขอ อำเภอแก้ว และ ต.ฝาละมี ต.เกาะนางคำ ต.เกาะหมาก อำเภอปากพะยูน ต้องเจอกับสภาพทะเลหนุน และมวลน้ำป่าที่ไหลหลากลงมาสมทบ
 

 
ทำให้หลายพื้นที่ยังมีน้ำท่วมสูง ซึ่งหมู่บ้านที่ติดริมทะเลสาบกว่า 60 หมู่บ้านของอำเภอดังกล่าว บางหมู่บ้านน้ำท่วมสูงเกือบ 1.50 เมตร ชาวบ้านผู้ประสบภัยต้องอพยพมาอาศัยริมถนนภายในหมู่บ้านเกือบ 500 ครัวเรือน แต่เต็นท์ที่พักไว้สำหรับอพยพมีไม่เพียงพอ แม้ชาวบ้านได้ร้องขอจากผู้ใหญ่บ้านประสานไปยังทางจังหวัด และหน่วยงานที่พอมีขอหยิบยืมมาใช้เป็นที่พัก ก็หาไม่ได้ จนบางครอบครัวต้องเข้ากลับไปอาศัยในบ้านที่มีน้ำท่วมสูง

โดยเฉพาะชาวบ้านหมู่ที่ 6 บ้านแหลมดิน ต.หานโพธิ์ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง จำนวน 270 ครอบครัว ที่น้ำหลากท่วมมาตั้งแต่ช่วงตี 2 ของเมื่อคืน และเพิ่มระดับขึ้นมาต่อเนื่อง ต้องอพยพมาพักอาศัยบนถนนสายทางหลวงชนบท หมายเลข 4003 จำนวน 60 ครอบครัว แต่ทางผู้นำได้เช่าเต็นท์มารับรองได้ 10 ครอบครัวเท่านั้น เนื่องจากทั่วทั้งจังหวัดเต็นท์ถูกนำไปใช้สำหรับผู้อพยพทั้งหมด จนทำให้ชาวบ้านไม่มีที่หลับนอนในคืนนี้อย่างแน่นอน
 

 
ในขณะที่สัตว์เลี้ยงวัว และสัตว์ปีก ชาวบ้านต้องอพยพมาไว้บนถนนเช่นกัน และต้องตัดกิ่งไม้มาขวางไว้บนถนน เนื่องจากกลัวรถที่ขับผ่านมาเฉี่ยวชน เพราะยังไม่มีสัญญาณไฟติดตั้งที่พอสังเกตได้

สำหรับน้ำที่ท่วมถนนสายหลักเอเชีย 41 เส้นทางระหว่างจังหวัดพัทลุง ไปยังจังหวัดสงขลา ทั้งฝั่งขาขึ้นและขาล่องเป็นระยะทางยาวกว่า 400 เมตร ในพื้นที่ หมู่ 1 และ 9 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน และหมู่ 8 และ 13 ต.โคกสัก อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ทำให้น้ำหลากท่วมพื้นผิวจราจร 20 เซนติเมตร รถยนต์ทุกชนิดสามารถผ่านได้แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง 

ขณะที่ นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้ลงพื้นที่สำรวจสภาพน้ำบริเวณดังกล่าว พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวอย่างระมัดระวัง เนื่องจากยังมีสภาพน้ำท่วมผิวจราจร พร้อมกันนั้น ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูทางน้ำบริเวณดังกล่าว หากมีสิ่งกีดขว้างให้รื้อออกทันที่ เพื่อให้น้ำบนผิวจราจรลดลง
 



กำลังโหลดความคิดเห็น