ตามที่เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ได้ทำกิจกรรมเดินรณรงค์ “เดินไปหานายก หยุดโรงไฟฟ้าถ่านหิน เทใจให้เทพา หยุดการพัฒนาที่ทำลายชุมชน” ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 เพื่อยื่นจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องขอให้ยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เพราะมีความไม่ชอบธรรมนานัปการ อันเนื่องจากนายกรัฐมนตรี ได้ลงมาตรวจราชการในพื้นที่ จ.ปัตตานี เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2560 และประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่มหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย อ.เมืองสงขลา ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 นั้น
โดยเครือข่ายฯ ได้เริ่มเดินเท้าจากพื้นที่ก่อสร้างโครงการฯ เพื่ออธิบายต่อสาธารณะถึงความไม่เป็นธรรมที่ชาวบ้านได้รับจากโครงการฯ ความฉ้อฉล และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยเครือข่ายฯ ต้องการให้นายกรัฐมนตรี รับฟังเสียงประชาชน และให้พิจารณายกเลิกโครงการฯ ร่วมกันสร้างสังคมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน ดังเป็นรับทราบแล้วนั้น
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และรับทราบว่า ชาวบ้านได้ยื่นแจ้งการชุมนุมสาธารณะต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดสงขลา ได้มีประกาศให้เลิกการชุมนุมสาธารณะดังกล่าว โดยอ้างว่า เป็นการชุมนุมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งต่อมา ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 เวลาประมาณบ่ายโมง เมื่อเครือข่ายฯ ได้เดินทางถึงบริเวณแยกสำโรง อ.เมือง จ.สงขลา ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตั้งจุดสกัดการเดินเท้าของเครือข่ายฯ และในเวลาต่อมา ประมาณ 16.20 น. เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ได้เข้าสลายการชุมนุมของเครือข่ายฯ ทำให้ชาวบ้านบางส่วนได้รับบาดเจ็บ และชาวบ้านอีก 16 คน ถูกควบคุมตัวไป
สถานการณ์ดังกล่าวสะเทือนขวัญ และกำลังใจของประชาชนในสังคมไทยเป็นอย่างยิ่ง และลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลลงอย่างรุนแรง เนื่องจากรัฐบาลพยายามประกาศจะสร้างความปรองดองในประเทศ และจะคุ้มกันสิทธิมนุษยชนให้เทียบเท่าสากล โดยประกาศให้สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาตินั้น ครป.ขอเรียกร้องดังต่อไปนี้
1.เราขอประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมด้วยความรุนแรง และขอให้ปล่อยตัวชาวบ้านทั้งหมดที่ถูกควบคุมตัว หรือดำเนินคดีทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข ทั้งนี้ เพราะการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่อาจใช้ท่าทีที่แข็งกร้าวได้ อีกทั้งรัฐควรดำเนินนโยบายการพัฒนายั่งยืนตามที่ประกาศต่อสังคมโลก
2.เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลการยุติการใช้ความรุนแรง การใช้กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือที่ใช้ทำลายความชอบธรรมของประชาชนในการแสดงออกถึงสิทธิ เสรีภาพ ที่จะเรียกร้องให้รัฐได้เข้ามาแก้ไขปัญหา และต้องสร้างการมีส่วนร่วม รวมถึงยอมรับกระบวนการตรวจสอบของประชาชนอย่างจริงจัง
3.รัฐบาลปัจจุบันไม่มีความชอบธรรมในการดำเนินใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน ควรให้ประชาชนมีอำนาจในการตัดสินใจตามวิถีประชาธิปไตย เร่งเลือกตั้งตามโรดแมปที่ คสช.ประกาศไว้โดยเร็วที่สุด
ด้วยจิตสมานฉันท์และเชื่อมั่นในพลังประชาชน
แถลงโดย นายบุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย
แถลง ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2560