xs
xsm
sm
md
lg

สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ยะลา ล่าสุดชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้วกว่า 1.6 หมื่นครัวเรือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - คืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ จ.ยะลา ประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 16,650 ครัวเรือน จากทั้งหมด 5 อำเภอ 38 ตำบล 201 หมู่บ้าน ขณะที่โรงเรียนในพื้นที่ได้ประกาศหยุดการเรียนการสอนแล้ว 11 แห่ง

วันนี้ (28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ฝนตกหนัก และน้ำท่วมในพื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งล่าสุด ในวันนี้พบว่า ในพื้นที่ จ.ยะลา ยังคงมีฝนตกปกคลุมเกือบทุกพื้นที่ในช่วงเช้าที่ผ่านมา และปริมาณมวลน้ำในแม่น้ำปัตตานี ที่ไหลลงมาจากเขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ยังคงมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 2 เมตร จนล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ติดริมแม่น้ำ

โดยรายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนบางลาง พบว่า ยังคงปกติ มีปริมาณน้ำในเขื่อนร้อยละ 61 หรืออยู่ที่ 880.13 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนบางลางเมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) ที่ 25.82 ล้านลูกบาศก์เมตร และระบายน้ำผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ 2.87 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมวลน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นในแม่น้ำปัตตานีนั้น มาจากสภาวะฝนตกสะสมตลอดช่วง 4 วันที่ผ่านมา เป็นไปตามการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ถึงสภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ที่จะมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 1 ธ.ค.60
 

 
ทั้งนี้ มวลน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นในแม่น้ำปัตตานี ทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ติดริมแม่น้ำ ที่ไหลผ่าน อ.เมืองยะลา ส่งผลกระทบให้ ต.ท่าสาป ต.พร่อน ต.ยุโป ต.ตาเซะ อ.เมืองยะลา มีน้ำเข้าท่วมฉับพลัน ประชาชนบางพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมได้ขนย้ายสิ่งของขึ้นมาอยู่บนถนน โดย อ.เมืองยะลา ได้ส่งเจ้าหน้าที่ อส.ประจำตำบลเข้าตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว

ขณะเดียวกัน ในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา เช่น ชุมชนตลาดเก่า ชุมชนเปาะยานิ ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับน้ำจาก ต.สะเตงนอก และ ต.บุดี อ.เมืองยะลา ยังคงมีน้ำท่วมขัง เนื่องจากปริมาณฝนที่ลงซ้ำลงมาอีก แม้ว่าเมื่อวานนี้จะมีการเร่งระบายน้ำลงสู่คลองแบเมาะ ซึ่งเป็นแก้มลิงเพื่อผันน้ำออกจากเขตพื้นที่ชุมชนตลาดเก่า และทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนแล้ว นอกจากนี้ ทางจังหวัดยังไม่มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม หรือเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานรายงานเพิ่มเติม ว่า สำหรับพื้นที่ ม.1 ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา ได้มีประชาชนประมาณ 20 คน ได้หนีน้ำมาอาศัยบริเวณขนำที่หัวสะพาน แม่น้ำสายบุรี ริมถนนสายรามัน-รือเสาะ เนื่องจากน้ำจาก อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ได้ไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรีจำนวนมาก ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชนบริเวณริมแม่น้ำสายบุรีตลอดสาย โดยเฉพาะ ต.บาลอ ต.อาซ่อง ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา บ้านเรือนประชาชนบางส่วนมีน้ำท่วม ประชาชนต้องนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สัตว์เลี้ยงนำมาไว้บริเวณริมถนน ตรงหัวสะพานแม่น้ำสายบุรี เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน
 

 
มีรายงานจากสำนักเขตพื้นที่การศึกษาเขต 1 ว่า มีโรงเรียนที่ประกาศหยุดการเรียนการสอนแล้ว 11 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านบาโด โรงเรียนบ้านพรุ โรงเรียนบ้านไทรงาม โรงเรียนบ้านจาหนัน โรงเรียนบ้านต้นหยี โรงเรียนบ้านทุ่งเหรียง อ.เมือง จ.ยะลา โรงเรียนบ้านโต๊ะปาเก๊ะ โรงเรียนบ้านตะโละสตาร์ โรงเรียนบ้านจะรังตาดง โรงเรียนบ้านไม้แก่น และโรงเรียนบ้านปาดาฮัน อ.รามัน จ.ยะลา นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่ามีอีกหลายโรงเรียนที่เด็กไม่สามารถเดินทางมาโรงเรียนได้ เนื่องจากสภาพถนนมีน้ำท่วมขัง โรงเรียนจึงต้องปิดไปโดยปริยาย

ส่วนที่บ้านปรามะ หมู่ที่ 13 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต้องอพยพข้าวของขึ้นไว้ที่สูง พร้อมทั้งนำรถจักยานยนต์ รถยนต์มาจอดไว้ที่ริมถนนใหญ่ ส่วนบางครอบครัวก็ต้องย้ายไปอยู่กับญาติก่อน เนื่องจากที่อยู่อาศัยเป็นบ้านชั้นเดียว ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ และต้องรอจนกว่าน้ำจะลดลง

ทั้งนี้ ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ยะลา ว่า มีพื้นที่ประสบภัยแล้ว 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง รามัน ยะหา บันนังสตา และ อ.กรงปินัง มีทั้งสิ้น 38 ตำบล 201 หมู่บ้าน ประชาชนประสบภัย จำนวน 16,650 ครัวเรือน จำนวนกว่า 66,808 ราย อพยพแล้ว 33 ครอบครัว ถนน 16 แห่งเสียหาย พื้นที่ทางการเกษตรจำนวนกว่า 7,845 ไร่ มีผู้เสียชีวิต 1 คน และสูญหายอีก 1 คน
 



กำลังโหลดความคิดเห็น