ปัตตานี - นายสัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลฯ เผย วาฬเกยตื้นที่ จ.ปัตตานี ชันสูตรเบื้องต้นพบปอดอักเสบ เตรียมนำชิ้นเนื้อส่งตรวจห้องแล็บส่องกล้องอีกครั้ง
วันนี้ (24 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี วาฬเกยตื้นที่ติดอวนชาวประมงพื้นบ้านในอ่าวปัตตานีเสียชีวิต 1 ตัว เมื่อวานที่ผ่านมานั้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทีมสัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ได้ทำการผ่าพิสูจน์เพื่อตรวจหาสาเหตุการตายของวาฬว่ามาจากสาเหตุใด
นายกมลเทพ ชัยสวัสดิ์ นายสัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง กล่าวว่า หลังจากนำวาฬจาก อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อวานนี้ ซึ่งผลจากการผ่าพิสูจน์เบื้องต้นพบเป็นวาฬสายพันธุ์โอมูระ พบบริเวณหน้าอกมีรอยช้ำ อวัยวะตรงปอดมีน้ำล้างเนื้อ ดูจากภายนอกปอดอักเสบ เพื่อความแน่ใจจะต้องนำชิ้นเนื้อส่งตรวจห้องแล็บ เพื่อนำชิ้นส่วนส่องกล้องอีกครั้ง
นายสัตวแพทย์ยังกล่าวอีกว่า ปลาชนิดนี้จะกินฝูงปลาเป็นอาหาร การที่พบปลาชนิดนี้ สามารถชี้ได้ว่า ทะเลแถบนี้มีฝูงปลาเป็นจำนวนมาก บงบอกได้ว่าทะเลแถบนี้มีความอุดมสมบูรณ์ และก่อนหน้านี้ เมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา เคยพบเกยตื้นมาแล้วที่ อ.ระโนด จ.สงขลา ทางศูนย์วิจัยฯ มีแผนอยู่แล้วที่จะทำการสำรวจวาฬในอ่าวไทย จากพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ไปจนถึง จ.นราธิวาส
โดยวาฬโอมูระ เป็นวาฬสายพันธุ์หายากที่มีความใกล้เคียงกับวาฬบรูด้า ถูกค้นพบครั้งแรกจากซากของมันในปี ค.ศ.2003 และเมื่อพิจาณาจากซากแล้วจึงพบว่า มีความต่างจากวาฬบรูด้า กล่าวคือ วาฬโอมูระนั้นมีขนาดเล็กกว่า ตัวผู้ที่โตเต็มวัยยาวเพียง 10 เมตร ตัวเมียยาวเพียง 11.5 เมตร รอยจีบใต้ลำคอมีจำนวนมากกว่า คือ 80-90 รอยจีบ มีครีบหลังที่สูงกว่า และมีความโค้งน้อยกว่าของวาฬบรูด้า ความหายากของมันทำให้ไม่ทราบพฤติกรรมชัดเจน และข้อมูลที่อยู่อาศัยของมันในทะเลทั่วโลกยังคงเป็นปริศนา