ตรัง - ครูสาวควบรถปาเจโร่เสียหลักพลิกคว่ำอัดประตูรั้วบ้านนักข่าวบน ถ.ตรัง-ปะเหลียน ชาวบ้านเผยเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะกำลังมีการปรับผิวจราจร แต่ไม่ติดตั้งป้ายสัญญาณไฟ และวางแนวกั้นถนนต่างระดับ
วันนี้ (24 พ.ย.) ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ คำนึง พนักงานสอบสวน สภ.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำชนกำแพงบ้านเสียหาย ที่บ้านเลขที่ 28/4 ถนนตรัง-ปะเหลียน หมู่ที่ 4 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน ซึ่งมี นายพรชัย นาคพล อายุ 58 ปี บรรณาธิการ นสพ.อันดามันไทม์ ผู้สื่อข่าว นสพ.เดลินิวส์ สถานีโทรทัศน์นิวส์ทีวี ประจำ จ.ตรัง และกรรมการสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย เป็นเจ้าของบ้าน
ภายหลังจากรับแจ้งจึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยตำรวจสายตรวจตำบล โดยที่เกิดเหตุมีชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่บริเวณประตูรั้วบ้าน พบรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว หมายเลขทะเบียน กย 2052 ภูเก็ต พลิกตะแคงซ้ายอยู่ภายในรั้วบ้าน สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน จากการตรวจสอบพบว่า ประตูรั้วเหล็กพังยับติดคาอยู่กับตัวรถ ส่วนเสาปูนกำแพงรั้วบ้าน ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน
จากการสอบสวนทราบว่า รถยนต์คันดังกล่าว มี นางวิชุดา มลพง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ที่ 7 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง มีอาชีพเป็นครูอัตราจ้าง ร.ร.บ้านท่าข้าม อ.ปะเหลียน เป็นคนขับขี่รถออกมาจากการเฝ้าไข้บุตรที่ รพ.แห่งหนึ่งในตัวเมืองตรัง เพื่อที่จะกลับมาทำงานตามปกติ แต่ช่วงเกิดเหตุได้ขับขี่รถอยู่บนถนนที่กำลังปรับผิวจราจรอยู่ ก่อนตกลงไปบนพื้นถนนที่ต่างระดับ ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบจนเข้าไปชนกับกำแพงบ้าน และไถลเข้าไปอยู่ภายในบ้าน ทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหายดังกล่าว
แต่โชคดีที่ นางวิชุดา ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเพราะพระเครื่องพระอาจารย์แปลก เกจิชื่อดังแห่งวัดปากปรน อ.หาดสำราญ ที่อยู่ภายในรถได้ช่วยเหลือเอาไว้ และในรอบปี 2560 นี้ รถยนต์คันดังกล่าวยังได้เกิดเหตุพลิกคว่ำมาแล้วถึง 3 ครั้ง จนรถพังเสียหายอย่างหนัก แต่คนขับทุกคนปลอดภัยทุกครั้ง
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน แจ้งว่า ก่อนหน้านี้บริเวณจุดเดียวกันบนถนนตรัง-ปะเหลียน ภายในเวลาแค่ 3 ชม. ได้เกิดเหตุรถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำมาแล้วถึง 3 คัน ทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายทั้งร่างกาย และทรัพย์สิน เนื่องจากหน่วยงานที่ทำถนนไม่ได้ติดตั้งป้ายสัญญาณไฟ และวางแนวกั้นถนนต่างระดับเพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่รถให้ระมัดระวังแต่อย่างใด อีกทั้งถนนบางช่วงยังเป็นหลุมเป็นบ่อ จนส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น
ดังนั้น ชาวบ้านจึงวิงวอนไปยังผู้รับผิดชอบให้เร่งเข้ามาดูแล รวมทั้งกำกับควบคุมผู้รับเหมาอย่างเข้มงวด และอย่าทำงานแบบขอไปที เพราะหลังจากเกิดอุบัติเหตุขึ้นต่อเนื่องกันหลายครั้ง ทำให้ต่างรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก