ปัตตานี - คืบหน้ากรณีนักเรียนไทยเขียนภาษาไทยบนแผ่นหินโบราณจนถูกประจานในโซเซียล โรงเรียนยืนยันจุดที่นักเรียนเขียนไม่ใช้โบราณสถานตามที่เป็นข่าว แต่พร้อมขอโทษที่ทำให้ประเทศเสียชื่อเสียง พร้อมมีการลบข้อความดังกล่าวออกแล้ว วอนสังคมหยุดเผยแพร่
วันนี้ (23 พ.ย.) หลังจากทีทางเฟซบุ๊ก ของอาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ นักจัดรายการชื่อดัง ได้เดินทางไปยังประเทศจอร์แดน และได้ไปพบการเขียนข้อความภาษาไทยลงบนแผ่นหิน บริเวณแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ที่มีภาพสลักหิน และภาพลายเส้น ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งเมื่อมีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในความไม่เหมาะสม และทำให้ชื่อเสียงของประเทศเสียหายนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนซอลีฮียะห์ ม.3 ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อพบกับผู้อำนวยการของโรงเรียนเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่เมื่อไปถึงทราบว่า ทาง ดร.อับดุลเลาะ ยีเลาะ ผู้อำนวยการโรงเรียนซอลีฮียะห์ กำลังศึกษาดูงานที่ประเทศจอร์แดน โดยจะมีกำหนดกลับวันที่ 26 พ.ย.60
โดยมี นายอับดุลการีม มะแซ รักษาการแทน ผอ.โรงเรียนซอลีฮียะห์ พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลที่เกิดขึ้นว่า ในห่วงเวลาดังกล่าวทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้เดินทางไปยังประเทศจอร์แดน เพื่อไปศึกษาดูงาน แต่เมื่อไปถึงทางศิษย์เก่าของโรงเรียนก็ได้เดินทางไปต้อนรับ และในวันที่เกิดเหตุ ทางศิษย์เก่าของโรงเรียนได้พาคณะของ ผอ.ไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญๆ และขอยอมรับว่าภาพที่เห็นในเฟซบุ๊กนั้นเป็นฝีมือของศิษย์เก่าจริงๆ แต่ขอยืนยันว่ าสถานที่นั้นไม่ใช่แหล่งโบราณที่ผาหินเปตราที่เป็นข่าว แต่แท้จริงมีการเขียนข้อความที่ผาหินวาดิรัม ซึ่งอยู่ห่างจากผาหินเปเตรา กว่า 100 กิโลเมตร และสถานที่แห่งนี้เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเขียนข้อความต่างๆ เมื่อมาถึงที่นี่
อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ทางโรงเรียนก็พร้อมที่จะขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้ที่อ่านเฟซบุ๊ก และก่อให้เกิดความไม่สบายใจ ซึ่งทางโรงเรียนได้ประสานไปยังทางสถานทูตไทย ประจำประเทศจอร์แดน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด และได้นำนักเรียนที่เขียนข้อความไปลบข้อความเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางสถานทูตไทย ประจำประเทศจอร์แดน จะมีการแถลงข่าวทำความเข้าใจอีกครั้ง และทางโรงเรียนขอวอนอย่าได้เผยแพร่ภาพดังกล่าวต่อ เพราะจะทำให้ชื่อเสียงของประเทศไทยเสียหายได้
นายอับดุลการีม กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สอบถามไปยังเด็กนักเรียนที่เขียนข้อความดังกล่าว ก็รู้สึกเสียใจ และไม่ทราบว่าเรื่องจะบานปลายได้ขนาดนี้ ซึ่งทางเด็กได้รับผิดชอบเดินทางไปลบข้อความแล้ว และได้มีการนัดพูดคุยกับ อ.เผ่าทอง ทองเจือ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และพร้อมขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะที่ทำไปเนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์