xs
xsm
sm
md
lg

“ล่องแพ-ปีนเขา” ไปอยู่กับธรรมชาติที่ชุมชนบ้านน้ำราบ จ.ตรัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
“ชุมชนบ้านน้ำราบ” หรือชื่อเดิม “บ้านน้ำรอบ” เนื่องจากบริเวณที่อยู่อาศัยล้อมรอบไปด้วยน้ำในทุกทิศทุกทาง ปัจจุบันมีประชากรประมาณ 1,400 คน ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน
 
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้ มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และหลากหลาย ดังนั้น กลุ่มประมงพื้นบ้านน้ำราบ ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2542 จึงได้เปิดกิจกรรมท่องเที่ยวชุมชนขึ้น
 

 
โดยเริ่มจากการช่วยเหลือสมาชิกให้มีเงินทุนซื้อเครื่องมือประมง พร้อมทั้งเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการต่อต้านการใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย เช่น อวนรุน อวนลาก ระเบิดและยาเบื่อ
 
หลังจากเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ทางกลุ่มได้มีการฟื้นฟูป่าชายเลน ปลูกป่าชายเลนเสริม และกำหนดกติกาการใช้ประโยชน์ป่าชายเลนของชุมชน รวมทั้งยังฟื้นฟูทรัพยากรในรูปแบบต่างๆ เช่น การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ตลอดจนจัดทำพื้นที่แนวเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อน 4 หมู่บ้าน หรือที่เรียกกันว่า “เขตเล เสบ้าน”
 

 
จนส่งผลให้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งสมบูรณ์ขึ้น โดยเฉพาะป่าชายเลน ขณะที่หญ้าทะเลก็มีพื้นที่เพิ่มขึ้นจาก 6,724 ไร่ เมื่อปี 2549 เป็น 8,148 ไร่ ในปี 2554 หรือเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 50 ของพื้นที่ เป็นร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนชาวประมงพื้นบ้านเอง ก็สามารถจับสัตว์น้ำเศรษฐกิจได้อย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี
 
บังเคียะ หรือ “หลงเฝียะ บางสัก” ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านน้ำราบ บอกว่า จากการเปิดกิจกรรมท่องเที่ยวชุมชน ทำให้คนในชุมชนได้มารวมตัวกัน และบริหารจัดการธุรกิจท่องเที่ยวชุมชนด้วยตนเองนั้น นอกจากจะสร้างรายได้กลับคืนสู่คนในชุมชน และสังคมด้วยการนำรายได้เข้ากองทุน เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชนแล้ว ยังสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวบ้าน รวมทั้งส่งผลดีและเกิดประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมต่อชุมชน จนก่อเกิดความเข้มแข็ง ตระหนัก และหวงแหนทรัพยากรในท้องถิ่นของตนเอง
 

 
กิจกรรมท่องเที่ยวชุมชนบ้านน้ำราบ มีจุดเด่นตรงที่มีความหลากหลาย โดดเด่น และแตกต่างไปจากที่อื่น โดยเริ่มด้วยการล่องแพศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน บนผืนป่าโกงกางอันกว้างใหญ่ ทั้งสองฝั่งคลองตาเปะกว่า 3,000 ไร่ ที่มีสภาพอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของ จ.ตรัง รวมทั้งชมสัตว์น้ำนานาชนิด
 
ก่อนที่จะไปผจญภัยด้วยการปีนป่ายโขดหินขึ้นสู่ยอดเขาจมป่า ที่มีความสูง 84 เมตร เพื่อชมทิวทัศน์ และเกาะแก่งในฝั่งทะเลอันดามันแบบ 360 องศา พร้อมสัมผัสพันธุ์ไม้ป่าหายากที่พบเห็นได้เฉพาะบนภูเขาสูง เช่น ตะบองเพชร ป่าไผ่
 

 
จากนั้น นักท่องเที่ยวจะนั่งแพต่อไปยังบริเวณหาดหยงหลำ และหาดหยงหลิง เพื่อชมทะเลแหวกที่มีลักษณะเป็นบึงขนาดใหญ่เท่าสนามฟุตบอล และลงเล่นน้ำริมหาดทรายขาว ต่อด้วยการปลูกหญ้าทะเล เพิ่มแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ และอาหารของพะยูน ซึ่งเป็นสัตว์อนุรักษ์ชื่อดัง
 
และปิดท้ายด้วยการชิมอาหารซีฟู้ดแบบสดๆ โดยเฉพาะ “ปูม้า” ที่มีรสชาติอร่อย และเป็นแหล่งผลิตที่ใหญ่แห่งหนึ่งของทะเลตรัง
 
ทั้งนี้ กิจกรรมท่องเที่ยวชุมชนบ้านน้ำราบ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.30-16.30 น. หรือในลักษณะวันเดย์ทัวร์ มีทั้งหมด 4 โปรแกรม ทั้งล่องแพ ปีนเขา เล่นน้ำ ศึกษาดูงาน จนเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนจากต่างจังหวัด โดยเฉพาะชาวกรุงเทพฯ และชาวภาคกลาง ซึ่งนิยมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเชิงนิเวศ
 

 
ควบคู่กับการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทำให้แพที่มีอยู่ทั้ง 2 ลำ ถูกจับจองใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลและวันหยุด เนื่องจากสามารถขับขี่รถเพื่อเดินทางมายังกลุ่มประมงพื้นบ้านน้ำราบได้อย่างสะดวก โดยมีค่าบริการแพลำละ 2,500 บาทต่อ 25 คน และค่าอาหารคนละ 410 บาท
 
นอกจากนั้น ก่อนกลับบ้านยังแวะซื้ออาหารทะเลสดๆ โดยเฉพาะปูและปลา ในราคาแบบกันเอง รวมทั้งชมวิถีชาวประมง เครื่องมือประมงพื้นบ้าน และศูนย์เรียนรู้ธนาคารสัตว์น้ำชุมชน อาทิ ปูม้า หมึกไข่ ม้าน้ำและหญ้าทะเล ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ 085-798-0829 และ 087-277-8017 หรือทางเฟซบุ๊ก http://www.facebook.com/bannamrap
 




กำลังโหลดความคิดเห็น