ชุมพร - ตำรวจ ทหาร ด่านความมั่นคงชุมพร ประตูภาคใต้ จับยกแก๊ง ทั้งรถนำเส้นทาง รถขนกัญชา 400 แท่ง มูลค่า 12 ล้านบาท ผู้ต้องหา 5 คน รับจ้างขนจากริมฝั่งโขง ซ่อนใต้ฟักแฟงสดกลบเกลื่อน เตรียมส่งให้เอเยนต์ในกระบี่
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ด่านตรวจความมั่นคงประตูภาคใต้ บ้านพละ ถนนเพชรเกษม ตำบลเขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม รรท.ผบช.ภ.8 นายณรงค์ พลละเอียด ผวจ.ชุมพร พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ.พรพันธ์ ทิมขำ รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร พล.ต.สิทธิพร มุสิกะสิน ผบ.พล.ร.5 พ.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รอง ผบ.พล.ร.5 นายพีระ กาญจนพงศ์ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 8 และนายสราวุธ ภักดี ผอ.ส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย ป.ป.ส.ภาค 8 นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่พร้อมของกลาง คือ 1.นายสมทิตย์ รับยั้ง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 5 ตำบลคำผง อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ 2.นางสมคิด อ่อนสะท้า อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำปลีก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ 3.นายสมชาย พลธรรม อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านยาง อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ 4.นางน้ำเพชร พลธรรม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ที่ 5 ตำบลแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี 5.นายเล็ก เมืองโคตร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163 หมู่ที่ 1 ตำบลโพนทราย องเมือง จ.มุกดาหาร
เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลาง มีกัญชาแห้งอัดแท่ง 400 แท่ง น้ำหนัก 400 กิโลกรัม มูลคา 12 ล้านบาท รถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ตอนเดียว กระบะติดรั้วเหล็ก ทะเบียน ตห 6296 กรุงเทพมหานคร เป็นรถคันที่บรรทุกของกลางกัญชาอัดแท่ง รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ ตอนครึ่ง ทะเบียน บจ 4127 มุกดาหาร เป็นรถขับนำเส้นทางคันที่ 1 รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ ตอนครึ่งสีเทา ทะเบียน 1 ฒช 7558 กรุงเทพมหานคร รถขับนำเส้นทางคันที่ 2 ทั้งหมดร่วมกันลักลอบขนยาเสพติด
พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม รรท.ผบช.ภ.8 แถลงว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายถึงค่ำของเมื่อวานที่ผ่านมา พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต ทำหน้าที่หัวหน้าด่านตรวจความมั่นคงประตูภาคใต้บ้านพละ ถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 3 ตำบลเขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ พ่วงพิศ ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร พ.ท.ภาคิน เกื้อกุล ผบ.ร.25 พัน 1 ชุด ชป.รส.ร.25 พัน 1 มทบ.44 ร.ท.ปกรณ์ชัย ปุญสิริ หัวหน้าชุดทหารหมวดสุนัขทหาร กกล.เทพสตรี พัน.สท.กส.ทบ. สนธิกำลังตั้งด่านตรวจตามคำสั่ง คสช.ที่ 41/2557 ปราบปรามหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด และปัญหาอาชญากรรม พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ ตอนครึ่ง หมายเลขทะเบียน บจ 4127 มุกดาหาร ขับมาช่อทางล่องใต้จึงเรียกตรวจสอบ มี นายเล็ก เมืองโคตร อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาที่ 3 เป็นคนขับ
เมื่อสอบถามบอกว่า เดินทางมาจาก จ.มุกดาหาร จะมาซื้อทุเรียนที่ตลาดอำเภอหลังสวน ระหว่างนั้นมีเสียงโทรศัพท์เรียกเข้าตลอดเวลา และพูดจาวกวนมีพิรุธ จึงคุมตัวไปตรวจสอบพบโทรศัพท์มีการโทรติดต่อกันตลอดเส้นทาง เมื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรม เคยถูกจับกุมลักลอบขนกัญชาในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อต้นปี 2549 และเพิ่งพ้นโทษออกมา เมื่อเจ้าหน้าที่เค้นสอบอย่างหนักจึงรับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนขับรถยนต์นำเส้นทางคันที่ 1 โดยมีรถยนต์นำทางคันที่ 2 ขับตามหลังทิ้งช่วงห่างกันประมาณ 5 กิโลเมตร และมีรถยนต์ขนกัญชาขับตามมาคันหลังสุดเพื่อนำไปส่งทางภาคใต้
พล.ต.ท.สรศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อชุดจับกุมได้ข้อมูลจึงกระจายกำลังออกค้นหาเป้าหมายจนพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ ตอนครึ่งสีเทา ทะเบียน 1 ฒช 7558 กรุงเทพมหานคร จอดรออยู่ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งก่อนถึงด่านตรวจประมาณ 4 กิโลเมตร พบ นายสมชาย พลธรรม อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาที่ 3 และนางน้ำเพชร พลธรรม อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาที่ 4 อยู่ในรถจึงควบคุมตัวไว้ จากนั้นขยายผลไปจับกุม นายสมทิตย์ รับยั้ง อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 และ นางสมคิด อ่อนสะท้า อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 พร้อมรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ตอนเดียว กระบะติดรั้วเหล็ก ทะเบียน ตห 6296 กรุงเทพมหานคร จอดพักอยู่ในรีสอร์ตแห่งหนึ่งบริเวณเขตติดต่อกับ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรวจค้นที่กระบะหลังบรรทุกฟักแผงสดมาเต็มคัน ส่วนพื้นล่างมีกัญชาอัดแท่งห่อด้วยกระดาษฟอยล์ และพลาสติกใส จำนวน 400 แท่ง น้ำหนัก 400 กิโลกรัม
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า รับจ้างขนกัญชาทั้งหมดมาจากเอเยนต์ชาวลาว บริเวณริมแม่น้ำโขงฝั่ง จ.มุกดาหาร นำไปส่งให้เครือข่ายใน จ.กระบี่ ได้ค่าจ้างคนละ 50,000 บาท ทำมาแล้วหลายครั้ง และรอดจากการถูกจับกุมมาตลอด เนื่องจากใช้รถขับนำเส้นทางถึง 2 คัน เมื่อเจอด่านตรวจก็จะโทรศัพท์แจ้งต่อๆ กัน และแวะพักรอตามรีสอร์ต เมื่อเจ้าหน้าที่เลิกด่านก็จะเดินทางต่อนำยาเสพติดไปส่งยังเป้าหมาย จนกระทั่งมาถูกจับกุมในครั้งนี้
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันค้ายาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครองครองเพื่อจำหน่าย และสืบสวนขยายผลรวบรวมหลักฐานออกหมายจับผู้ร่วมเครือข่ายที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป