ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เปิดหีบสมบัติความคิด"สิทธาเศรษฐี" หรือ "จิมมี่ ชวาลา" หรือ "ปาป้าจิมมี่" นายห้างค้าผ้าเชื้อสายอินเดียที่มาตั้งรกรากใน จ.นครศรีธรรมราช ค้าขายจนร่ำรวย แต่มีใจช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก และมักจะไม่เปิดเผยให้ใครรู้ ล่าสุดชะตาชีวิตนำพามาพบกับ "ตูน บอดี้สแลม" ขณะตัวเองนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล หลังช่วยคนติดไฟไหม้บนตึก ตัดสินใจเดี๋ยวนั้น บริจาค 16 ล้านบาท ได้เป็นเศรษฐีอีกรอบ
วันนี้ (12 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครศรีธรรมราช ชาวบ้านในเขต อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จำนวนมากต่างออกมาให้การต้อนรับขบวนวิ่งมาราธอนโครงการก้าวคนละก้าวของตูน บอดี้สแลม อย่างใจจ่อท่ามกลางฝนที่ตกลงมาเป็นระยะตั้งแต่ช่วงเช้า
โดยการวิ่งในวันนี้จะไปสิ้นสุดลงที่บริเวณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และจะมีการรับมอบเงินจำนวน 16 ล้านบาท ที่นายจิมมี่ ชวาลา ผู้ประกอบการรร้านขายผ้าเก่าแก่ชื่อดังใน จ.นครศรีฯ โดยมีรายงานว่านายจิมมี่ ชวาลา จะรอตูนอยู่ที่บริเวณหน้าร้านเพื่อคอยให้กำลังใจ
สำหรับนายจิมมี่ ชวาลานั้น เกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ย.2500 เป็นบุตรของนางยานกี เดวี ชวาลา กับนายราม ชวาลา อดีตนักชกมวยไทยชื่อ "รามซิงค์ ศิษย์สุริยะ" มีชื่อเสียงในช่วงปี 2493-2499 โดยเคยขึ้นชกที่เวทีราชดำเนินมาแล้ว และนำเงินที่ได้มาสมทบกับเงินที่บิดามารดาได้จากการเร่ขายผ้าตามตลาดนัดต่างๆ มาเช่าอาคารเปิดเป็นร้านขายผ้า แรกเริ่มตั้งชื่อว่า "ร้านนายชม" ตั้งตามชื่อที่ชาวบ้านใช้เรียกนายเดสราช ชวาลา ปู่ของนายจิมมี่
ต่อมาในปี 2500 นายเดสราช ได้เปลี่ยนชื่อร้านเป็น "ร้านจิมมี่" เพื่อเป็นของขวัญแด่ "จิมมี่ ชวาลา" หลานคนแรกที่ลืมตาขึ้นมาดูโลกในปีนั้น กิจการร้านจิมมี่เติบโดตมาเรื่อยๆ และได้รับผลกระทบหนักจนกิจการเกือบจะไปไม่รอดในช่วงอุทกภัยปี 2531
ซึ่งปีนั้นแม้ร้านขายผ้าจะถูกน้ำท่วมสินค้าเสียหาย แต่จิมมี่ก็ยุ่งอยู่กับการแบกข้าวสารลงจากรถสิบล้อเพื่อนำไปช่วยเหลือคนอดอยากจากน้ำท่วม ข้าวสารบนรถคันนั้นมาถึงหน้าอำเภอนานแล้ว เพียงแต่ไม่มีใครช่วยขนลงจากรถ จิมมี่จึงไปจ้างคนถีบสามล้อและตัวเขาเองขนข้าวสารลงจากรถจนหมดจึงได้นำไปแจกจ่ายผู้ประสบภัยที่กำลังหิวโหย ขณะที่ผ้าห่มสินค้าในร้านที่จมน้ำถูกซักจนสะอาดตากจนแห้งและมอบให้ผู้ประสบภัยใช้ห่มกันหนาว
จิมมี่ ชวาลา ช่วยคนตกทุกข์ได้ยากมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ปริปากบอกใคร เขาทำอยู่เงียบๆ กับคนในครอบครัวและลูกน้อง ที่มารดาของเขาสอนว่าต้องปฏิบัติกับคนเหล่านั้นแบบ "ลูก" กับ "น้อง" การช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากของจิมมี่ อาทิ บริจาคเงินต่อเนื่องเพื่ออาหารกลางวันสำหรับนักเรียนที่ผู้ปกครองยากจนจำนวนหลายโรงเรียน บริจาคเงินจำนวน 28 ล้านบาทสมทบทุนซื้อทองคำบูรณะปลียอดพระบรมธาตุ บริจาคให้ตูนบอดี้สแลม 16 ล้านบาททั้งสองรายการทำในนามชาวนครศรีธรรมราช
นอกจากนี้ยังบริจาคเงินช่วยเหลือโรงพยาบาลประจำจังหวัดเพื่อซื้อเครื่องฉายแสงและสนับสนุนงบประมาณในการสร้างห้องฉายแสงไม่ให้ผู้ป่วยต้องเดินทางไกลไปรักษาถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และยังช่วยเหลือชาวบ้านเป็นรายบุคคลอีกหลายกรณีที่ไม่เปิดเผย หลายกรณีแม้กระทั่งผู้ได้รับความช่วยเหลือก็ยังมารู้ทีหลัง
และล่าสุดนี้เอง อาคารร้านค้าของนายจิมมี่ ชวาลา ถูกไฟไหม้ เขาช่วยทุกคนออกมาจากตึกที่ไฟกำลังไหม้ แต่พบว่ายังเหลืออีกคนติดอยู่บนชั้น 5 ของอาคาร คืออาสาว น้องของนายราม ชวาลา บิดาของจิมมี่ จิมมี่จึงแจ้งกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง แต่เพิลงกำลังลุกไหม้หนัก เจ้าหน้าที่ห้ามว่าไม่ควรมีใครขึ้นไปข้างบนอีก
แต่จิมมี่ ชวาลา อาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่ไม่เห็น วิ่งขึ้นไปช่วยอาลงมาได้อย่างปลอดภัยโดยมีลูกน้องตามมาช่วยเหลือด้วย แต่จิมมี่สำลักควันไฟต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลจนกว่าจะปลอดภัย ขณะที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาลเขาได้ยินข่าวโครงการก้าวคนละก้าว จึงตัดสินใจในเวลานั้น บริจาคเงินจำนวน 16 ล้านบาทสมทบทุนในการจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาล 11 แห่ง
ในหนังสือนวนิยายเรื่อง "สิทธาเศรษฐี" เขียนโดย "จำลอง ฝั่งชลจิตร" นักเขียนรางวัลรพีพร ชาว จ.นครศรีธรรมราช ที่เขียนขึ้นจากอัตชีวิประวัติของจิมมี่ ชวาลา พบว่าชีวิตของจิมมี่ มีเรื่องราวที่คล้ายเป็นบททดสอบชีวิตหลายเหตุการณ์ ดังกรณีล่าสุดที่เขาเข้าโรงพยาบาลเพราะเหตุไฟไหม้
และขณะที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลกลับมีข่าวชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังวิ่งทางไกล เพื่อขอเงินคนไทยคนละ 10 บาทเพื่อช่วยซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาล 11 แห่ง ซึ่งเรื่องราวชีวิตของเขาเต็มไปด้วยเหตุบังเอิญเช่นนี้เสมอมา และหนังสือ "สิทธาเศรษฐี" ขณะนี้จัดพิมพ์เป็นครั้งที่ 12 ในเวลาเพียง 7 ปี หลังจากพิมพ์ครั้งแรก
จิมมี่ ชวาลา จบการศึกษาจากโรงเรียน Bishop Cotton ประเทศอินเดีย พ่อเขาส่งไปเรียนเพื่อให้รู้จักแผ่นดินฝังรากเหง้าที่ครอบครัวอพยพจากมา แต่ขณะเรียนอยู่ที่นั่น จิมมี่บอกกับทุกคนว่าเขาเป็นคนไทย
คำขวัญของโรงเรียน Bishop Cotton เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางที่จิมมี่ยึดถือมาตลอดจนถึงวันนี้คือ "พึงเอาชนะความชั่วด้วยความดี" - "จงหาญกล้าที่จะเลือกความลำบากที่ถูกต้อง และปฏิเสธความสะดวกสบายที่ผิดทำนองครองธรรม" ซึ่งหลักคิดต่างๆ ของจิมมี่ ชวาลา เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ไม่สิ้นสุด
จิมมี่ ชวาลา กล่าวว่า เขาอยากเป็นเศรษฐีและได้เป็นเศรษฐี แต่เศรษฐีมีคนเข้าใจผิดคิดว่าหมายถึงความร่ำรวย หมายถึงคนรวย แต่คนรวยกับเศรษฐีแตกต่างกัน
"คนรวยนี้มีเงิน มีทรัพย์ ถึงเป็นคนรวย แต่เศรษฐี มีเงิน มีทรัพย์ และมีใจ ทุกคนจึงสามารถเป็นเศรษฐีได้ เพียงแค่รู้จักให้และเห็นคุณค่าต่อความเมตตาของเพื่อมนุษย์ ทุกคนก็จะเป็นเศรษฐี"