xs
xsm
sm
md
lg

บ้านสวนควนข้อง จ.สตูล จุดเพาะขยายพันธุ์ “หม้อข้าวหม้อแกงลิง” ที่กำลังจะสูญพันธุ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
สตูล - บ้านสวนควนข้อง จุดเพาะขยายพันธุ์ “หม้อข้าวหม้อแกงลิง” ที่กำลังจะสูญพันธุ์ และมีหม้อใบใหญ่ขนาดเท่าหน้าคน เป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ และขนมพื้นเมืองระดับชุมชนที่ยั่งยืน ของอุทยานธรณีประเทศไทย จ.สตูล

ที่บ้านสวนควนข้อง หมู่ 8 ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล อีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้ของทริปการท่องเที่ยวของกลุ่มสตูล จีโอปาร์ค อุทยานธรณีแห่งประเทศไทย จ.สตูล ที่ได้รับความสนใจ หลังจากที่บ้านสวนควนข้อง แห่งนี้ได้นำพันธุ์ไม้ “หม้อข้าวหม้อแกงลิง” ที่กำลังจะสูญพันธุ์มาทำการเพาะขยาย ผสมสายพันธุ์หายาก มีมากกว่า 1 พันต้น ถึง 6 สายพันธุ์ เช่น พันธุ์มิราบิลิด, พันธุ์ไวกิ้ง, พันธุ์ไทเกอร์, พันธุ์กาซิลิส, พันธุ์แอมโพดาเรีย และพันธุ์กุงชิง มาไว้ที่สวนแห่งนี้ เพื่อจำหน่ายหลากหลายราคา เช่น ขนาด 4 นิ้ว ขายกระถางละ 50 บาท ขนาด 6 นิ้ว ขายกระถางละ 150 บาท และขนาด 8 นิ้ว ขาย 850-900 บาท ทั้งนี้ ราคาก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ด้วย

สำหรับพันธุ์ที่ได้มาร่วม 2 ปี ขณะนี้มีหม้อขนาดใหญ่โตเกือบเท่าใบหน้า ของ นายวรวิช ควนข้อง อายุ 31 ปี เจ้าของสวนควนข้อง ที่ภูมิใจนำเสนอ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใบคาล X นอต (คือลูกผสม) ซึ่งจะมีขนาดใหญ่ไปอีก และขณะนี้อยู่ระหว่างการผสมเพาะขยายพันธุ์ ซึ่งยังไม่จำหน่ายในขณะนี้ หากผสมขยายพันธุ์แล้วเสร็จจะวางจำหน่ายให้ผู้ที่ชื่นชอบได้มาหาซื้อไปเพาะเลี้ยงกันอีกครั้ง
 

 
นายวรวิช ควนข้อง อายุ 31 ปี เจ้าของสวนควนข้อง กล่าวว่า ร่วม 4 ปีของการเพาะพันธุ์ไม้หม้อข้าวหม้อแกงลิง จากจุดเริ่มต้นที่มีชาวบ้านมาขอให้ตนสอนวิธีการเลี้ยงพันธุ์ไม้ชนิดนี้ ที่กำลังจะสูญพันธุ์ไปจากท้องถิ่น และเห็นเสน่ห์ของพันธุ์ไม้นี้ ที่มีความพิเศษในการเปลี่ยนสภาพจากใบเป็นกรวยจอกเพื่อดักจับแมลง และหลากหลายสายพันธุ์มีความแตกต่างกัน ประกอบกับการเป็นพันธุ์ไม้ที่เริ่มหายาก จึงเกิดแนวคิดในการเพาะขยายพันธุ์เพื่ออนุรักษ์ไว้ และส่งต่อให้ทุกคนที่ชื่นชอบได้ครอบครองเป็นเจ้าของ

ซึ่งขั้นตอนการเพาะขยายพันธุ์ก็ไม่ยุ่งยากอะไร ใช้ขุยมะพร้าวในการเพาะเมล็ด เนื่องจากต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง เป็นไม้เลื้อย หรือเถาวัลย์ เป็นพืชที่มีการแยกเพศ คือ 1 ต้น มี 1 เพศ, 1 ใบมี 1 หม้อ หรือกระเปาะ
 

 
ด้าน นายณรงค์ฤทธิ์ ทุ่งปรือ ผอ.อุทยานธรณีแห่งประเทศไทย จ.สตูล กล่าวว่า จ.สตูล เป็นอุทยานธรณีแห่งประเทศไทยแห่งแรก และกำลังรอให้มีการประกาศเป็นอุทยานธรณีโลก หรือจีโอปาร์ค จากยูเนสโก โดยบ้านสวนควนข้อง เป็นอีกหนึ่งแหล่งศึกษาสำคัญทางอุทยานธรณีใน จ.สตูล ที่มีการอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชนที่ยั่งยืน มีรายได้จากการเป็นวิทยากร เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นรายได้เสริมจากการทำสวนยางพารา ไม่น้อยกว่า 2-3 พันบาท จากการมาทำขนมข้าวเหนียวหม้อข้าวหม้อแกงลิง ซึ่งเป็นขนมพื้นเมืองตั้งแต่บรรพบุรุษ สาธิตให้ผู้มาเรียนรู้ได้กินกัน
 

 
นอกจากจะเป็นการเพาะขยายพันธุ์ไม้หายากไว้เพื่อการอนุรักษ์แล้ว ตัวหม้อหม้อข้าวหม้อแกงลิง ยังสามารถนำมาประกอบเป็นตัวห่อขนมหวานทานยามว่าง คือ “ข้าวเหนียวหม้อข้าวหม้อแกงลิง” เพียงนำข้าวเหนียวที่ผ่านการมูน คือ นึ่งข้าวเหนียวจนสุก แล้วนำน้ำกะทิเคี่ยวไฟอ่อน ใส่น้ำตาลพอละลาย และเกลือเล็กน้อย ผสมข้าวกันกับข้าวเหนียว ก็จะได้ข้าวเหนียวมูน จากนั้นตัดดอกหม้อข้าวหม้อแกงลิง ล้างให้สะอาดนำมาใส่ข้าวเหนียวมูน จากนั้นโรยด้วยงาขาวและดำ เพิ่มความอร่อย และสีสันให้น่ารับประทาน ก่อนนำไปนึ่ง 10 นาที ก็นำมากินเป็นอาหารว่าง หวาน มัน อร่อย สามารถกินได้ทั้งเปลือกหม้อข้าวหม้อแกงลิงกันเลย
 

 
ซึ่งกลุ่มนักศึกษาที่มาดูงาน และกลุ่มเข้ามาเรียนรู้ได้ร่วมกันทำกิจกรรม หลังได้เรียนรู้การเพาะพันธุ์ และความสวยงามของพันธุ์ไม้นี้แล้ว ยังได้กินข้าวเหนียวหม้อข้าวหม้อแกงลิง เป็นศูนย์เรียนรู้ที่ได้รับความสนใจ โดยตลอดปี 2560 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนมาดูงานไม่น้อยกว่า 1,800 คน สนใจสอบถามเพิ่มเติม หรือเข้ามาทัศนศึกษาได้ที่ โทร. 08-1097-1684 และ 086-284-2008

ขนมไทยภูมิปัญญาพื้นบ้านของทางภาคใต้ที่สืบทอดกันมานาน แต่ขณะนี้เริ่มหาซื้อกินยากตามท้องตลาด เพราะมีคนทำน้อย อย่าง “หม้อข้าวหม้อแกงลิง” ก็หายากขึ้น เนื่องจากมีจำนวนลดน้อยลงมากในธรรมชาติ จากการที่มีคนเข้าไปเก็บต้นเพื่อนำไปจำหน่ายเป็นไม้ประดับ ซึ่งหม้อข้าวหม้อแกงลิง จะพบมากที่สุดในบริเวณป่าพรุ และป่าเสม็ดของทางภาคใต้
 





กำลังโหลดความคิดเห็น