นครศรีธรรมราช - กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช รวบตัว “ต่อ สวนเลา” มือขวา “เสือมุ่ย สวนเลา” นักโทษแหกคุกมือปืนชื่อดัง และผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางจำนวนมาก แต่เสือมุ่ยใช้ความชำนาญหลบหนีไปได้
วันนี้ (31 ต.ค.) เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช บุกเข้าจับกุม นายธีรยุทธ พิบูลย์ หรือ “ต่อ สวนเลา” อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นคนสนิทของ “เสือมุ่ย” หรือนายธีรยุทธ ชูแก้ว หรือที่รู้จักในนาม “เสือมุ่ย สวนเลา” มือปืน และนักค้ายาเสพติดชื่อดังที่ได้แหกเรือนจำทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช หลบหนีอย่างลอยนวลเมื่อ 2 ปีก่อน
พร้อมกันนี้ ยังได้ของกลางเป็น ยาบ้า 1,140 เม็ด กัญชาอัดแท่งหนัก 4.5 กก.ยาไอซ์ 2 ถุง อุปกรณ์การเสพ 4 ชุด อาวุธปืน 2 กระบอก กระสุน 32 นัด นอกจากนั้น ยังได้ยึดทรัพย์เป็นเงินสด 49,600 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และรถจักรยานยนต์อีก จำนวน 4 คัน
โดยก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่สืบทราบ นายธีรยุทธ ชูแก้ว อายุ 34 ปี หรือ “เสือมุ่ย สวนเลา” กบดานอยู่ในหุบเขาบ้านสวนในเลา หมู่ 8 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จึงเข้าทำการปิดล้อมจับกุม แต่ปรากฏว่า นายธีรยุทธ หรือเสือมุ่ย อาศัยความชำนาญพื้นที่ป่าหลบหนีไปได้อีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายธีรยุทธ หรือ “ต่อ สวนเลา” คนสนิทของเสือมุ่ย ไว้ได้ ซึ่ง นายธีรยุทธ หรือ ต่อ สวนเลา มีหน้าที่ในการส่งเสบียง และเป็นผู้ค้ายาเสพติดให้แก่ นายธีรยุทธ หรือเสือมุ่ย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจยึดของกลางที่เก็บไว้จำนวนมาก
พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า หลังจาก นายธีรยุทธ หรือ “มุ่ย สวนเลา” ได้แหกคุกทัณฑสถานวัยหนุ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามไล่ล่ามาตลอดร่วม 2 ปี จนทราบที่กบดานว่าไปซ่อนตัวอยู่ที่หุบเขาบ้านสวนในเลา โดยมี นายธีรยุทธ หรือ “ต่อ สวนเลา” ซึ่งเป็นลูกน้องเป็นคนส่งเสบียง รวมทั้งยาเสพติด และอาวุธปืนไปให้ตลอด และยังพบว่า ยังออกมาก่อเหตุทั้งคดีฆ่า และค้ายาเสพติดมาโดยตลอด
“เป้าหมายของตำรวจ คือ นายธีรยุทธ หรือ “มุ่ย สวนเลา” จึงเข้าทำการตรวจสอบเพื่อจับกุม แต่ด้วยความชำนาญป่ายังหลบหนีไปได้ แต่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายธีรยุทธ หรือ “ต่อ สวนเลา” ลูกน้องคนสนิทของเสือมุ่ย ไว้ได้ พร้อมของกลางจำนวนมากดังกล่าว อย่างไรก็ตาม แม้เป้าหมายยังหลบหนีไปแต่ก็จะเร่งสืบสวนสอบสวนหาตัว นายธีรยุทธ หรือ “มุ่ย สวนเลา” มาดำเนินคดีให้ได้ เพราะเป็นบุคคลอันตราย” พ.ต.อ.เชาวศิลป์ กล่าว