พัทลุง - ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมคณะลงพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง เพื่อตรวจสอบระบบการระบายน้ำ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของจังหวัด เตรียมรับสถานการณ์ฝนตกหนักที่อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมขึ้นได้
จากการที่ได้มีคำเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา ถึงสภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ในระยะนี้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มได้ ซึ่งในส่วนของ จ.พัทลุง เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในร่องฝนดังกล่าว และทุกปีมักจะมีฝนตกหนัก จนเกิดสภาวะน้ำท่วมในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคม สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก
ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือต่อสถานการณ์ดังกล่าว นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วย นายสุเมธ บุญยก นายกเทศมนตรีเมืองพัทลุง และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง โครงการชลประทานพัทลุง ได้ลงพื้นที่เขตเทศบาลเมืองพัทลุง เพื่อตรวจสอบระบบระบายน้ำในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของจังหวัด
โดยพบว่า ท่อระบายน้ำบางส่วนมีขนาดเล็กเกินไป นอกจากนี้ ยังมีการอุดตันจากเศษขยะ ทำให้น้ำไหลไม่สะดวก ประกอบกับมีพื้นที่บางแห่งประชาชนทำการถมที่ ทำให้คลองส่งน้ำธรรมชาติที่มีอยู่เดิมมีขนาดเล็กลง และบางแห่งถูกถมจนมิด ทำให้น้ำไม่สามารถไหลผ่านได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางเทศบาลเมืองพัทลุง ได้ทำการขุดลอกคูคลองสายต่างๆ ภายในเขตเทศบาล ทำให้น้ำสามารถระบายได้เร็วขึ้น พร้อมกันนี้ ได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ตามจุดต่างๆ ที่เป็นจุดเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วม เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้อย่างทันท่วงที
ขณะที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ทางจังหวัดได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกัน และแก้ปัญหาอุทกภัย เพราะถือเป็นภัยธรรมชาติที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนมายาวนาน ซึ่งโดยปกติได้มอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบอยู่แล้ว ส่วนในช่วงที่มีภาวะความเสี่ยงที่จะเกิดอุทกภัยในช่วงหน้าฝน ทางจังหวัดได้บูรณาการศักยภาพจากทุกภาคส่วนเข้ามาดูแล เพื่อให้สามารถป้องกัน ช่วยเหลือ และการเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชนสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของจังหวัด ขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่แล้ว แต่ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันดูแล มิให้มีขยะ และเศษวัสดุต่างๆ เข้าไปอุดตันในท่อระบายน้ำ และขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด