สุราษฎร์ธานี - ไฟหลวง และหีบเพลิงพระราชทาน ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ถึงสุราษฎร์ธานีแล้ว ในขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัด เผย พระเมรุมาศจำลองก่อสร้างเสร็จ โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการตบแต่งมณฑลพิธี และการซักซ้อมเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และจิตอาสาอย่างเข้มงวด
วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.09 น. ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี อัญเชิญไฟหลวงพระราชทาน และหีบเพลิงพระราชทานไปเก็บรักษาไว้ที่ห้องพระ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ณ พระเมรุมาศจำลอง วัดกลางใหม่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า องค์พระเมรุมาศจำลองได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ เหลือแต่การตกแต่งภูมิทัศน์เพื่อจะถวายพระเกียรติพระองค์ท่านอย่างสูงสุด รวมทั้งการจัดสถานที่รองรับพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และถวายดอกไม้จันทน์ โดยทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ รวมทั้งอาหารที่จะรองรับประชาชนกว่า 70,000 คน
นอกจากนั้น ยังได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการรถขนส่งต่างๆ รวมทั้งรถสาธารณะ รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก รถสองแถง รถมินิบัสกว่า 300 คัน ที่จะบริการรับส่งประชาชนในจุดที่สำคัญต่างๆ ทั่วตัวเมือง เพื่อมาส่งที่วัดกลางใหม่ สถานที่ประดิษฐานพระเมรุมาศจำลอง พร้อมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ทยอยเดินทางมาตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป จนถึง 15.00 น. หลังจากนั้น จะได้รับชมพิธีต่างๆ ที่ถ่ายทอดสดจากส่วนกลางที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และในเวลา 18.30 น.จะเปิดโอกาสให้ประชาชนถวายความอาลัยครั้งสุดท้ายจนถึงเวลา 22.00 น. พร้อมขอความร่วมมือในการแต่งกายด้วยชุดสุภาพเรียบร้อย และงดถ่ายภาพเซลฟี่ต่างๆ รวมทั้งการเข้ามาในบริเวณมณทลพิธีด้วยความสุขุม และความสงบ เพื่อจะได้ร่วมกันส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
ส่วนการตกแต่งมณฑลพิธี ทางเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จะเข้าพื้นที่ในวันที่ 21 ต.ค.นี้ เพื่อตกแต่งพื้นที่ด้วยดอกไม้ให้เป็นป่าหิมพานต์ ที่มีสัตว์ต่างๆ เช่น ราชสีห์ คชสีห์ และช้าง พร้อมสัตว์ต่างๆ อีกมากมายมาตกแต่ง ส่วนพระจิตกาธาน ขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้าง จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ และขอยืนยันว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีความพร้อมสมบูรณ์ ทันในวันสำคัญนี้อย่างแน่นอน
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และจิตอาสาต่างมีการซักซ้อมเตรียมพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ในที่ 26 ต.ค.นี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อความพร้อมเพรียงเป็นหมวดหมู่ในวันราชพิธีที่สำคัญนี้
วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.09 น. ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี อัญเชิญไฟหลวงพระราชทาน และหีบเพลิงพระราชทานไปเก็บรักษาไว้ที่ห้องพระ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ณ พระเมรุมาศจำลอง วัดกลางใหม่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า องค์พระเมรุมาศจำลองได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ เหลือแต่การตกแต่งภูมิทัศน์เพื่อจะถวายพระเกียรติพระองค์ท่านอย่างสูงสุด รวมทั้งการจัดสถานที่รองรับพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และถวายดอกไม้จันทน์ โดยทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ รวมทั้งอาหารที่จะรองรับประชาชนกว่า 70,000 คน
นอกจากนั้น ยังได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการรถขนส่งต่างๆ รวมทั้งรถสาธารณะ รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก รถสองแถง รถมินิบัสกว่า 300 คัน ที่จะบริการรับส่งประชาชนในจุดที่สำคัญต่างๆ ทั่วตัวเมือง เพื่อมาส่งที่วัดกลางใหม่ สถานที่ประดิษฐานพระเมรุมาศจำลอง พร้อมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ทยอยเดินทางมาตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป จนถึง 15.00 น. หลังจากนั้น จะได้รับชมพิธีต่างๆ ที่ถ่ายทอดสดจากส่วนกลางที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และในเวลา 18.30 น.จะเปิดโอกาสให้ประชาชนถวายความอาลัยครั้งสุดท้ายจนถึงเวลา 22.00 น. พร้อมขอความร่วมมือในการแต่งกายด้วยชุดสุภาพเรียบร้อย และงดถ่ายภาพเซลฟี่ต่างๆ รวมทั้งการเข้ามาในบริเวณมณทลพิธีด้วยความสุขุม และความสงบ เพื่อจะได้ร่วมกันส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
ส่วนการตกแต่งมณฑลพิธี ทางเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จะเข้าพื้นที่ในวันที่ 21 ต.ค.นี้ เพื่อตกแต่งพื้นที่ด้วยดอกไม้ให้เป็นป่าหิมพานต์ ที่มีสัตว์ต่างๆ เช่น ราชสีห์ คชสีห์ และช้าง พร้อมสัตว์ต่างๆ อีกมากมายมาตกแต่ง ส่วนพระจิตกาธาน ขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้าง จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ และขอยืนยันว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีความพร้อมสมบูรณ์ ทันในวันสำคัญนี้อย่างแน่นอน
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และจิตอาสาต่างมีการซักซ้อมเตรียมพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ในที่ 26 ต.ค.นี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อความพร้อมเพรียงเป็นหมวดหมู่ในวันราชพิธีที่สำคัญนี้