xs
xsm
sm
md
lg

แม่ไม้การเมือง(๒) : นิทานการเมืองเรื่อง “วัวหรือหมาที่ลากหนวน” / จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วีระ มุสิกพงศ์ หรือ วีระกานต์ สุมิกพงศ์ หรือ ไข่มุกดำ
 
คอลัมน์  :  คนคาบสมุทรมลายู
โดย...จรูญ  หยูทอง-แสงอุทัย
 
 
วีระ มุสิกพงศ์ หรือ “ไข่มุกดำ” นักการเมืองที่เคยเป็นเลขาธิการพรรค ปชป.สมัยที่มี ส.ส.เกินร้อยคนมาแล้ว มีบทบาทในการชักชวนคนดังเข้าพรรคมามากต่อมาก และเคยลงชิงชัยต่อกรกับ สมัคร สุนทรเวช ในเขตดุสิตมาแล้ว แต่แพ้หลุดลุ่ย เพราะแม้แต่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตเลขาธิการพรรค ปชป.และ หน.พรรคกิจสังคม ก็แพ้สมัครมาแล้วทั้งนั้น
 
วีระ เคยพูดแบบติดตลกว่า...

“ปราศรัยใน กทม.เราสู้สมัครไม่ได้ ผมท้าให้มันมาปราศรัยแข่งกับผมที่แหลมสมิหลาสงขลา มันไม่หาญมา ไม่ใช่เพราะมันกลัวแพ้ผม มันกลัวลมเข้าหมูกหมันหนิครับ”
 
ในบรรดานักการเมืองที่ใกล้ชิด พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ถือว่าวีระเป็น “ลูกป๋า” คนหนึ่ง เพราะเคยอภิปรายในสภาจน พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องหลั่งน้ำตาลาออกในสภามาแล้ว และเปิดโอกาสให้พลเอกเปรมก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในปี ๒๕๒๔
 
วีระมีส่วนในการสร้างความมั่นคงให้กับพรรค ปชป.มาก่อนที่ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี คนบ้านใกล้เรือนเคียงจะเข้ามาและรับตำแหน่งโฆษกรัฐบาลสมัยพลเอกเปรม
 
ในวันที่เกิดความแตกแยกกรณี “๑๑ มกรา” จนวีระและเพื่อน ส.ส.จำนวนหนึ่งต้องเดินออกจากพรรค ปชป. โดยฝ่ายที่ยังอยู่ถือว่าเป็นฝ่ายปกป้องป๋าเปรม และฝ่ายวีระเป็นฝ่ายจะล้มป๋าเปรม
 
วีระมาตั้งพรรคใหม่ชื่อ “พรรคดำรงไทย” ซึ่งเป็นหัวพรรคเก่าที่วีระบอกว่า...


“พวกผมถูกยิกออกจากบ้านตัวเอง เดินมาพบหนำร้างข้างทางหน่วยหนึ่ง ชื่อหนำดำรงไทย เลยลองอยู่แล สักพักหวางอี้ได้สร้างบ้านหลังใหม่”
 
วันหนึ่งในการปราศรัยหาเสียงของพรรค ปชป.ที่หลังสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ได้กล่าวพาดพิงถึงวีระให้เกิดความเสียหาย
 
วันต่อมาวีระมาเปิดปราศรัยบริเวณเดียวกัน และได้กล่าวพาดพิงถึง ดร.ไตรรงค์ด้วยการชักนิทานเทียบให้ฟังตามลีลาการปราศรัยที่สนุกสนานเร้าความสนใจว่า...


“แถวโนดบ้านผม คือบ้านโหนดนอก เถรแก้ว หน้าเก็บข้าว พี่น้องชาวบ้านบ้านผมเขาจะใช้หนวน(พาหนะขนเลียงข้าวคล้ายเกวียน แต่ไม่มีล้อ เพื่อสะดวกในการข้ามคันนา และใช้แรงงานวัวหรือควายในการชักลาก) ลากข้าวเลียงไปไว้บนเรินข้าว...

“เวลาวัวหรือควายลากหนวน หมาที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านมันก็ตามไปนากัน พอวัว ควายลากหนวนมาตามบิ้งนา กลางท่องบ้านเรามันไม่มีร่มไม้ให้วัว ควาย หรือหมาได้หยุดพักร่ม วัว ควายต้องยืนหยุดพักกลางแดด หมามันทนร้อนไม่ได้เหมือนวัว ควาย มันเลยไปยืนพักร่มใต้ท้องวัว ควาย...

“หลายหนเข้า พอถึงบ้านหมามันคงเข้าใจว่า มันเป็นผู้ลากหนวน ไม่ใช่วัวหรือควายอย่างที่เราเห็น ผมเข้ามาทำงานการเมืองในพรรคก่อน ดร.ไตรรงค์ตั้งนาน จนพรรคมีความมั่นคง ดร.ไตรรงค์เข้ามาไม่นานมาเหมาเอาว่า พรรคอยู่ได้เพราะหมัน ตกลงไตรรงค์กับผม ใครเป็นหมา ใครเป็นวัว พี่น้องว่า”
 
ผู้ฟังการปราศรัยวันนั้น(รวมทั้งผมด้วย) ต่างปรบมือด้วยความชอบใจ แม้ว่าวีระและพรรคพวกจะไม่มีราคาค่างวดอะไรเลยในทางการเมืองในยุคนั้น แต่นี่คือน้ำเสียงของคนที่กำลังสูญเสียความเป็นผู้กอบกู้พรรค ปชป.มาด้วยความยากลำบาก วันดีคืนดีก็ถูกใครไม่รู้ขับไล่ให้ออกจากบ้านของตนเอง พร้อมคำเยาะเย้ยถากถาง เหมือนไม่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาก่อน
 
วันที่วีระติดคุก เพราะช่วยปราศรัยให้เพื่อนที่บุรีรัมย์ที่ถูกกล่าวหาว่า ไม่ใช่คนบุรีรัมย์ เหมือนที่เขาเคยถูกกล่าวหาว่า ไม่ใช่คนพัทลุง “ลุงเคล้า” หรือ “ครูเคล้า” ผู้เป็นพ่อบอกให้วีระ “เดินถอยหลังเข้าคุก” เพื่อเอาเคล็ดว่า ไม่นานจะออกจากคุก ถ้าหันหน้าเข้าเกรงว่า จะเป็นลางว่าอยู่นาน
 
และครั้งนั้นคนพัทลุงยังลงคะแนนให้วีระหลายพันคะแนน ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาอยู่ในคุก
 
นอกจากนั้น ผมยังจำคำปราศรัยของวีระ ที่กล่าวเปรียบเปรยถึงการกระทำของพวกตนที่มีต่อรัฐบาลพลเอกเปรมในครั้งนั้น จนถูกกล่าวหาว่าเนรคุณป๋า ช่วงหนึ่งวีระปราศรัยอุปมาอุปไมยว่า...
 
“ป๋าเปรียบเหมือนพญาอินทรี ย่อมต้องมีความสง่างาม แต่ป๋าต้องมีกัลยาณมิตรที่เป็นคนดี คอยดูแลไม่ให้ป๋าเสียหาย เพราะถึงเป็นพญาอินทรี แต่ถ้าไม่มีใครช่วยหาเหาหาไรให้มั่ง พญาอินทรีก็อาจจะขนร่วงเป็นขี้เกลื้อนเรื้อนกวางได้เหมือนกัน”
 
นี่คือตำนานการปราศรัยทางการเมืองของอดีต “ไข่มุกดำ” ผู้รักพวกรักพ้อง และเคยช่วยปราศรัยให้ พรเทพ เตชะไพบูลย์ เพื่อนร่วมพรรค ปชป.ที่บุรีรัมย์ สมัยเป็น ส.ส.พัทลุง จนต้องติดคุกมาแล้ว
 
แม้วันนี้ วีระ มุสิกพงศ์ หรือ วีระกานต์ สุมิกพงศ์ จะปิดตำนานนักการเมืองผู้ทระนงองอาจไปแล้ว แต่ประวัติของเขาไม่เคยลบเลือนไปจากความทรงจำของผม และใครต่อใครอีกหลายคน ที่ชื่นชอบความเป็นคนนักเลงของเขา
 
ส่วนภาพลักษณ์ในช่วงหลังๆ ก็แล้วแต่ใครจะประเมินค่า เพราะประวัติศาสตร์ไม่อาจจะทำใหม่ได้ดังใจครับ.
 
กำลังโหลดความคิดเห็น