ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตม.ภูเก็ตรวบต่างชาติอยู่เกินกำหนดในราชอาณาจักรได้ 3 รายจากพื้นที่ ต.ป่าตอง พร้อมเผยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้อยู่เกินและหลบหนีเข้าเมืองได้มากกว่า 50 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นชาวเวียดนาม
เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ (30 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.อาชีพ เจริญสันติสุข รอง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.เทียนชัย ชมภู สว.ตม.จว.ภูเก็ต นำโดย ร.ต.ท.ปวริศ ปานะจิราพร ร.ต.ท.ชิษณุ จุติชัย รอง สว.ตม.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.ภูเก็ต ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ 3 คน
ประกอบด้วย 1. นายคูราม (MR.KHURRAM RASHEED) อายุ 33 ปี สัญชาติปากีสถาน 2. นายรีอาซัด อาลี (MR.RIASAT ALI) อายุ 23 ปี สัญชาติปากีสถาน และ 3. นายรัดนาการ์ เรดดิ้ง ซิงเกรดดี้ (MR. RATNAKAR REDDY SINGIREDDY) อายุ 21 ปี สัญชาติอินเดีย โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณปากซอยบางลา ริมถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกสืบสวนหาข่าวปราบปราม จับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และผู้กระทำความผิดกฎหมายที่มีโทษทางอาญาอื่นๆ ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา เมื่อออกตรวจถึงบริเวณปากซอยบางลา ริมถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เห็นชาวต่างชาติทั้ง 3 รายกำลังยืนอยู่บริเวณดังกล่าวท่าทางมีพิรุธ ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจสอบเอกสารพาสพอร์ต ปรากฏว่าทั้ง 3 รายไม่สามารถนำมาแสดงได้จึงได้ควบคุมตัวมาทำการตรวจสอบที่ ตม.ภูเก็ต
จากการตรวจสอบพบว่า 1. นายคูราม อายุ 33 ปี สัญชาติปากีสถาน เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2557 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 60 วัน ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 8 มี.ค. 2557 และไม่ปรากฏว่ามีการขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักร ทำให้นายคูรามอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด จำนวน 1,302 วัน
ส่วนรายที่ 2 นายรีอาซัด อาลี อายุ 23 ปี สัญชาติปากีสถาน เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2557 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 60 วัน ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 11 ก.ย. 2557 และไม่ปรากฏว่ามีการขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักร ทำให้ นายรีอาซัด อาลี อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด จำนวน 1,115 วัน และ 3. นายรัดนาการ์ เรดดิ้ง ซิงเกรดดี้ อายุ 21 ปี สัญชาติอินเดีย เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2559 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 60 วัน ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 26 ธ.ค. 2559 และไม่ปรากฏว่ามีการขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักร ทำให้ นายรัดนาการ์ เรดดิ้ง ซิงเกรดดี้ อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด จำนวน 278 วัน
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาชาวต่างชาติทั้ง 3 ราย เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 รายรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตองเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ท.เทียนชัย ชมภู สว.ตม.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการออกตรวจสอบและกวาดล้างนักท่องเที่ยวที่อยู่เกินกำหนดและหลบหนีเข้าเมืองในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เดือนสิงหาคมอยู่เกินกำหนด 13 ราย หลบหนีเข้าเมือง 2 ราย รวม 15 ราย ส่วนเดือนกันยายนอยู่เกินกำหนด 18 ราย หลบหนีเข้าเมือง 40 ราย และอื่นๆ 1 ราย รวมทั้งหมด 59 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ที่จับกุมได้จะเป็นชาวเวียดนาม อินเดีย ไนจีเรีย และประเทศอื่นๆ เมื่อผู้ถูกจับกุมถูกดำเนินคดีในประเทศไทยแล้วก็จะมีการผลักดันกลับประเทศในที่สุด และนอกจากนี้ทาง ตม.ภูเก็ตยังคงเดินหน้าออกจับกุมและกวาดล้างชาวต่างชาติที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องต่อไป
เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ (30 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.อาชีพ เจริญสันติสุข รอง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.เทียนชัย ชมภู สว.ตม.จว.ภูเก็ต นำโดย ร.ต.ท.ปวริศ ปานะจิราพร ร.ต.ท.ชิษณุ จุติชัย รอง สว.ตม.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.ภูเก็ต ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ 3 คน
ประกอบด้วย 1. นายคูราม (MR.KHURRAM RASHEED) อายุ 33 ปี สัญชาติปากีสถาน 2. นายรีอาซัด อาลี (MR.RIASAT ALI) อายุ 23 ปี สัญชาติปากีสถาน และ 3. นายรัดนาการ์ เรดดิ้ง ซิงเกรดดี้ (MR. RATNAKAR REDDY SINGIREDDY) อายุ 21 ปี สัญชาติอินเดีย โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณปากซอยบางลา ริมถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกสืบสวนหาข่าวปราบปราม จับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และผู้กระทำความผิดกฎหมายที่มีโทษทางอาญาอื่นๆ ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา เมื่อออกตรวจถึงบริเวณปากซอยบางลา ริมถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เห็นชาวต่างชาติทั้ง 3 รายกำลังยืนอยู่บริเวณดังกล่าวท่าทางมีพิรุธ ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจสอบเอกสารพาสพอร์ต ปรากฏว่าทั้ง 3 รายไม่สามารถนำมาแสดงได้จึงได้ควบคุมตัวมาทำการตรวจสอบที่ ตม.ภูเก็ต
จากการตรวจสอบพบว่า 1. นายคูราม อายุ 33 ปี สัญชาติปากีสถาน เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2557 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 60 วัน ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 8 มี.ค. 2557 และไม่ปรากฏว่ามีการขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักร ทำให้นายคูรามอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด จำนวน 1,302 วัน
ส่วนรายที่ 2 นายรีอาซัด อาลี อายุ 23 ปี สัญชาติปากีสถาน เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2557 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 60 วัน ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 11 ก.ย. 2557 และไม่ปรากฏว่ามีการขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักร ทำให้ นายรีอาซัด อาลี อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด จำนวน 1,115 วัน และ 3. นายรัดนาการ์ เรดดิ้ง ซิงเกรดดี้ อายุ 21 ปี สัญชาติอินเดีย เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2559 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 60 วัน ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 26 ธ.ค. 2559 และไม่ปรากฏว่ามีการขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักร ทำให้ นายรัดนาการ์ เรดดิ้ง ซิงเกรดดี้ อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด จำนวน 278 วัน
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาชาวต่างชาติทั้ง 3 ราย เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 รายรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตองเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ท.เทียนชัย ชมภู สว.ตม.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการออกตรวจสอบและกวาดล้างนักท่องเที่ยวที่อยู่เกินกำหนดและหลบหนีเข้าเมืองในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เดือนสิงหาคมอยู่เกินกำหนด 13 ราย หลบหนีเข้าเมือง 2 ราย รวม 15 ราย ส่วนเดือนกันยายนอยู่เกินกำหนด 18 ราย หลบหนีเข้าเมือง 40 ราย และอื่นๆ 1 ราย รวมทั้งหมด 59 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ที่จับกุมได้จะเป็นชาวเวียดนาม อินเดีย ไนจีเรีย และประเทศอื่นๆ เมื่อผู้ถูกจับกุมถูกดำเนินคดีในประเทศไทยแล้วก็จะมีการผลักดันกลับประเทศในที่สุด และนอกจากนี้ทาง ตม.ภูเก็ตยังคงเดินหน้าออกจับกุมและกวาดล้างชาวต่างชาติที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องต่อไป
