พังงา - ครอบครัว “นางวรรณา สวนสัน” หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับเกี่ยวข้องเหตุลอบวางระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อ 2 ปีก่อน ร้องสื่อขอให้รัฐบาลไทยเห็นใจ นำตัวน้องสาว และลูกน้อยที่เกิดในห้องขัง ตม.ตุรกี กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย หลังจากถูกกักตัวนาน
นางวรรณา สวนสัน หรือนางไมซาเราะห์ อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดพังงา อยู่ในพื้นที่ ม. 6 บ้านห้วยทรัพย์ ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา ซึ่งเป็น 1 ในผู้ต้องหา และนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู ชาวตุรกี สามีนางวรรณา ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาร่วมกันมียุทธภัณฑ์ และครอบครองวัตถุระเบิดฯ บริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2558 หลังจากเดินทางไปยังประเทศตุรกีก่อนเกิดเหตุระเบิด โดยการสืบสวนสอบสวนพบว่า นางวรรณา เกี่ยวข้องในการเปิดห้องพัก และเช่าบ้านให้กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นเพื่อนของสามี ซึ่งในขณะนั้นทางเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการประสานงานขออัยการ และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นคดีความมั่นคง และเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
โดยในวันนี้ ทางนางรู้เกี้บ สวนสัน มารดา และนางเอมอร สวนสัน พี่สาว พร้อมครอบครัวได้ร้องของความเป็นธรรมให้ทางรัฐบาลไทยเข้าช่วยเหลือครอบครับของ นางวรรณา สวนสัน ผู้ต้องหาในคดีระเบิดราชประสงค์ ก่อนจะถูกจับตัวพร้อมสามีที่ ตม.ตุรกี และถูกยึดพาสปอร์ตห้ามเดินทางออกนอกประเทศตุรกี และถูกคุมขังไว้ที่ ตม.ตุรกี เป็นเวลากว่า 2 ปี จนทำให้ทางญาติพี่น้องที่อาศัยอยู่ในจังหวัดพังงา เกิดความกังวลใจ และสงสารหลานอีก 2 คน ที่เกิดในห้องขังต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก จึงต้องการให้ทางรัฐบาลไทยเข้าช่วยเหลือนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย แม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางญาติๆ ได้มีการทำหนังสือไปถึงทางสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทางรัฐบาลขอตัว นางวรรณา สวนสัน กลับมาที่ประเทศไทย แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ จึงฝากสื่อให้ช่วยเหลือ
นางเอมอร สวนสัน พี่สาวกล่าวว่า น้องสาวถูกออกหมายจับในคดีวางระเบิดที่ราชประสงค์ เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นน้องสาวของตนเองได้ไปเช่าโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และได้เช็กเอาต์ออกไปก่อนหน้าแล้ว 2 เดือน ก่อนจะเกิดเหตุวางระเบิด และมีคนไปเช่าห้องที่น้องสาวพักอาศัยอยู่ต่อ แต่หลังจากน้องสาวเช็กเอาต์ออกก็ได้อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ และเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดพังงาไม่ถึงเดือน ทางสามีของน้องสาวจึงได้ทำเรื่องเดินทางกลับประเทศตุรกี จึงมีเหตุการณ์ระเบิดราชประสงค์ และมีการออกหมายจับน้องสาว และสามีชาวตุรกี จนขณะนี้น้องสาวและสามีลูกอีก 2 คน ถูกคุมขังไว้ที่ ตม.ตุรกี
จึงอยากจะฝากถึงทางรัฐบาลไทย และสื่อมวลชนช่วยนำเสนอเพื่อขอตัวน้องสาวกลับมายังประเทศไทย เพราะอยู่ที่ประเทศตุรกีถูกกักขังในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งตนเองเคยได้ติดต่อกับน้องสาวที่ถูกคุมขังอยู่ประเทศตุรกี เขาอยากกลับมาประเทศไทยเพื่อมาพิสูจน์ความจริงว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อคดีลอบวางระเบิดดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางครอบครัวได้ทำหนังสือให้ทางสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ
นางรู้เกี้บ สวนสัน มารดากล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกสงสารลูกสาว และหลานที่ถูกคุมขังอยู่ที่ประเทศตุรกี จนลูกสาวตนเองเกิดลูกอีกคนในห้องขัง จึงฝากให้ทางรัฐบาลไทยช่วยดำเนินการขอตัวให้ลูกสาวกลับมายังประเทศไทยเพื่อต่อสู่คดีต่อไป