xs
xsm
sm
md
lg

“9 ผู้ต้องคดี ค.1 ท่าเรือน้ำลึกปากบารา” พึ่งกองทุนยุติธรรม ประกาศกร้าวลุยล้ม “แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล” ถึงที่สุด (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “9 ผู้ต้องหา ค.1 โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา” ยกทัพขอพึ่งกองทุนยุติธรรม ในการประกันตัวสู้คดี พร้อมออกแถลงการณ์ในนามเครือข่ายประชาชนปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสองฝั่งทะเล ประกาศพร้อมพิสูจน์เจตนาบริสุทธิ์ในการปกป้องบ้านเกิดต่อกระบวนการยุติธรรม ยันเดินหน้าล้ม “แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล” ถึงที่สุด
 



ช่วงที่ 1



ช่วงที่ 2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ก.พ.) ที่ศาลากลาง จ.สตูล 9 ผู้ต้องหาคดีคัดค้านเวที ค.1 โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา อ.ละงู จ.สตูล ได้เดินทางไปรวมตัวกันเพื่อทำเรื่องของใช้เงินกองทุนยุติธรรมในการประกันตัวในการต่อสู้คดี โดยมีผู้เสนอตัวเป็นผู้ค้ำประกันประกอบด้วย นายไพศาล หลีเส็น อดีตคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดสตูล (กกต.จ.สตูล) และ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา พร้อมมีพี่น้องประชาชนเดินทางไปให้กำลังใจจำนวนมาก ซึ่งเพจ “MGR Online ภาคใต้” ได้เกี่ยวสัญญาณถ่ายทอดสดแบบ Live สด! ไปแล้วรวม 2 ช่วงเวลาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
 
ระหว่างทำเรื่องของใช้เงินกองทุนยุติธรรมประกันตัว 9 ผู้ต้องหาดังกล่าว “เครือข่ายประชาชนปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสองฝั่งทะเล” ได้มีการอ่านแถลงการณ์เรื่อง “เราพร้อมพิสูจน์เจตนาบริสุทธิ์ในการปกป้องบ้านเกิดต่อกระบวนการยุติธรรม” เพื่อประกาศให้สาธารณะได้รับรู้รับทราบเรื่องราวต่างๆ ด้วย โดยมีเนื้อหาสาระสำคัญดังนี้
 

 
การรวมตัวกันของ “เครือข่ายประชาชนปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสองฝั่งทะเล” เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขของโครงการขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า “แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล” ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องการเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมระหว่างทะเลอันดามัน และอ่าวไทยเข้าด้วยกัน อันประกอบด้วย 3 โครงการหลักคือ

1.โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา
2.โครงการท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 (บ้านสวนกง) และ 
3.โครงการรถไฟรางคู่เชื่อมท่าเรือทั้งสองฝั่งทะเลเข้าด้วยกัน
 

 
ซึ่งทั้ง  2 โครงการอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIA ส่วนโครงการรถไฟรางคู่ได้มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA เสร็จสิ้นไปแล้ว และอยู่ระหว่างการเข้าสู่การเข้าวาระพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ก่อนที่จะส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการต่อไป
 
ทั้งหมดนี้คือ ความห่วงกังวลของพวกเราที่มีข้อมูลให้เชื่อได้ว่า โครงการเหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม แหล่งท่องเที่ยว และวิถีวัฒนธรรมของคนทั้ง 2 จังหวัดในอนาคตอย่างไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้
 

 
เครือข่ายประชาชนทั้ง 2 จังหวัดได้มีการติดตามการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการจัดทำ  EIA และ EHIA ของโครงการทั้งหมดตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา และพบว่า ในกระบวนการดังกล่าวมีข้อบกพร่องในเนื้อหาสาระ และกระบวนการที่ไม่ได้เป็นไปตามระเบียบทางราชการอย่างแท้จริง
 
โดยเฉพาะเรื่องของกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ อันเป็นที่ตั้งของโครงการนั้นๆ จนได้นำไปสู่การทักท้วงในหลายครั้งเพื่อให้มีการปรับปรุงกระบวนการให้มีมาตรฐาน ให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจแต่อย่างใด จนยังความไม่พอใจให้แก่หน่วยงาน และนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีต่อแกนนำเครือข่าย จำนวน 9 คนในเวลานี้
 

 
ด้วยคิดจะนำกฎหมาย และ “คดีความ” มาใช้เพื่อหวังจะกำราบไม่ให้เครือข่ายประชาชนทั้ง 2 จังหวัดได้ออกมาขัดขวางการศึกษาดังกล่าวอีกต่อไป 
 
เราจึงขอยืนยันร่วมกันว่า “การปกป้องบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อดำรงไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม แหล่งท่องเที่ยว และวิถีวัฒนาธรรมที่ดีงามคือสิทธิที่พวกเราพึงกระทำได้” และความตั้งใจเหล่านี้ล้วนตั้งมั่นอยู่ในเจตนาที่บริสุทธิ์ ไม่ได้มีสิ่งใดแอบแฝง
 

 
เราจึงขอยืนหยัดที่จะทำหน้าที่นี้ให้ถึงที่สุด และพร้อมที่จะพิสูจน์การกระทำทั้งหมดผ่านกระบวนการยุติธรรมในทุกขั้นตอน 
 
การได้รับการสนับสนุนเงินทุนประกันตัวจากกองทุนยุติธรรม และผู้ค้ำประกันในวันนี้ คือ บทพิสูจน์เบื้องต้นต่อการกระทำของพวกเราทุกคน และจากนี้ไปเราจะขอใช้โอกาสของการเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้เพื่อสร้างความเข้าใจต่อสาธารณชนถึงข้อเท็จจริงทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัด จากผลกระทบของโครงการทั้งหมด
 

 
รวมถึงความฉ้อฉลของบริษัทผู้ทำกระบวนการศึกษาโครงการ เพื่อให้เกิดความกระจ่างแจ้งถึงเหตุและผลที่พวกเราทั้งหมดจะต้องออกมาประกาศท่าทีไม่เห็นด้วยต่อโครงการทั้งหมดร่วมกัน เพื่อพิสูจน์ในความเชื่อที่ว่า “การปกป้องบ้านเกิด  ไม่ใช่ความผิด” อันจะเป็นบรรทัดฐานให้แก่การลุกขึ้นยืนหยัดปกป้องบ้านเกิดของชุมชนอื่นๆ ต่อไป ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ประกาศ ณ ศาลากลางจังหวัดสตูล วันที่ 25 กันยายน 2560
 

กำลังโหลดความคิดเห็น