ตรัง - ประชาชนชาวตรังผู้มีรายได้น้อยรับมอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับผู้มีรายได้น้อย ขอบคุณรัฐบาลที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคนจน แม้จะเป็นเงินไม่มากแต่มีความสำคัญ ขณะที่ผู้สูงอายุหลายคนยังสับสนเรื่องวิธีการใช้ และป้ายสัญลักษณ์ตามร้านที่เข้าร่วมโครงการ
วันนี้ (21 ก.ย.) ที่สำนักงานห้องคลังจังหวัดตรัง นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการมอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 โดยมี นางธิดา บุญรัตน์ คลังจังหวัดตรัง ร่วมด้วย ท่ามกลางบรรยากาศบางตา มีประชาชนส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุประมาณ 10 คน มารอรับบัตรตั้งแต่เช้า
นางอบ อุทธรี อายุ 82 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง กล่าวว่า รู้สึกดีใจ และขอขอบใจรัฐบาลที่ได้ช่วยประชาชน ก็คิดว่ามีประโยชน์มาก ได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้มีรายได้น้อย ส่วนที่รัฐบาลช่วยเหลือก็เป็นรายจ่ายที่หนักพอสมควร การช่วยเหลือก็ถือว่าช่วยแบ่งเบาภาระไปได้ส่วนหนึ่ง
ด้าน น.ส.หมินละ กาหลง อายุ 41 ปี เป็นชาว ต.เกาะลิง อ.กันตัง จ.ตรัง กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี และรู้สึกดีใจก็จะช่วยเรื่องการศึกษาของลูก นับว่าเป็นการช่วยเหลือที่มีประโยชน์มาก ปกติก็มีรายจ่ายมากกว่ารายรับอยู่แล้ว ก็จะช่วยชดเชยในส่วนนั้น เงิน 3,000 บาท สำหรับคนจนมีค่ามาก ยามที่เราไม่มีเงินสักบาท บางคนอาจจะมองค่าเป็นเงินเล็กน้อย แต่สำหรับตนเองคิดว่ามีความสำคัญมาก ขอฝากรัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้นกว่านี้
ขณะที่ นางธิดา บุญรัตน์ ผอ.คลังจังหวัดตรัง กล่าวว่า บัตรนี้สามารถใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 นี้เป็นต้นไป ใช้ได้ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ ส่วนขั้นตอนการใช้ก็ไม่ยาก ประชาชนที่มีบัตรก็สามารถสังเกตสัญลักษณ์ของร้านค้าในชุมชน ตำบล หมู่บ้าน ที่เข้าร่วมอยู่ในโครงการ บัตรนี้ก็จะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระของผู้มีรายได้น้อยได้บางส่วน ผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถไปรับบัตรฯ ได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนไว้ได้ ตั้งแต่วันนี้ 21 กันยายน 2560 เป็นต้นไป
ซึ่งการให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะมี 2 หมวด ได้แก่ หมวดการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ซึ่งประกอบด้วย 1.วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตร จากร้านธงฟ้าประชารัฐ โดยผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อคนต่อปี จะได้รับ 300 บาทต่อคนต่อเดือน ส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาท จะได้รับ 200 บาทต่อคนต่อเดือน และ 2.วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้า ที่กระทรวงพลังงานกำหนด 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
ส่วนหมวดการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งประกอบด้วย 1.วงเงินค่าโดยสารรถเมล์/รถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน 2.วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน และ 3.วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน ทั้งนี้ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อ Call Center ของบัตรฯ ได้ที่ 0-2109-2345 จำนวน 150 คู่สาย วันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-17.30 น.