กระบี่ - อัยการจังหวัดกระบี่ ส่งฟ้อง “บังฟัต” และพวกผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าล้างครัว นายวรยุทธ สังหลัง อดีตผู้ใหญ่บ้านเขางาม ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมครอบครัว 8 ศพแล้ว อัยการมั่นใจสำนวนคดีมีความรัดกุม เผยโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต
จากกรณีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนสังหาร นายวรยุทธ สังหลัง อายุ 46 ปี หรือผู้ใหญ่บัต ซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านเขางาม ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เสียชีวิตพร้อมลูกเมีย และญาติรวม 8 ศพ และบาดเจ็บอีก 3 คน เหตุเกิดภายในบ้านพักเลขที่ 14/3 ม.1ต.บ้านกลาง เมื่อวันที่ 10 ก.ค.60 ที่ผ่านมา สร้างความสะเทือนขวัญแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก ต่อมา เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัว นายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต บ้านนบวงศ์สกุล อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุพร้อมพวกรวม 8 คน หลังเกิดเหตุได้เพียง 5 วัน โดยในชั้นสอบสวนนายซุริก์ฟัต ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนวางแผนก่อเหตุ เนื่องจากมีความขัดแย้งกับ นายวรยุทธ เรื่องการขายฝากที่ดิน และมีการขู่ฆ่ากันหลายครั้ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะรวบรวมสำนวนในคดีพร้อมพยานหลักฐานส่งให้อัยการจังหวัดกระบี่ พิจารณาส่งฟ้องศาล เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (20 ก.ย.) นายพิเชษฐ์ เชาว์กิจค้า อัยการจังหวัดกระบี่ พร้อมคณะทำงานพิจารณาสำนวนในคดีของสำนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ ได้นำเอกสารคำฟ้องไปยื่นต่อศาลจังหวัดกระบี่ ขณะที่ทางศาลจังหวัดกระบี่ ได้เบิกตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ประกอบด้วย
นายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต บ้านนบวงศ์สกุล อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 นายคมสรรค์ หรือม่อน เวียงนนท์ อายุ 41 ปี นายอับดุลเลาะ หรือเลาะ ดอเลาะ อายุ 30 ปี นายอรุณ หรือกี่ ทองคำ อายุ 29 ปี นายประจักษ์ หรือจักษ์ บุญทอย อายุ 37 ปี นายธนชัย หรือโกบ จำนอง 41 ปี นายธวัชชัย หรือชล บุญคง อายุ 38 ปี และ น.ส.ชลิดา หรือดา สังขโชติ อายุ 41 ปี ที่อยู่ระหว่างควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำจังหวัดกระบี่ มารับฟังคำฟ้องเพื่อดำเนินการตามกระบวนการของศาลต่อไป
นายพิเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสำนวนของพนักงานสอบสวนในคดี จำนวน 2,382 หน้า พร้อมพยานหลักฐานที่ส่งมาที่พนักงานอัยการพิจารณาแล้วนั้น พบว่า มีความรอบคอบรัดกุม รวมทั้งพยานหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่ก็มีความแน่นหนา เชื่อว่าสามารถนำสืบเพื่อพิสูจน์ในชั้นศาลได้ว่า ตัวผู้ต้องหาได้กระทำผิดตามที่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาจริง ซึ่งข้อกล่าวหา หลักๆ ในคดีนี้ ประกอบด้วย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นฯ ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นฯ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นฯ ปล้นทรัพย์ฯ ซ่องโจรฯ ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน เป็นต้น ซึ่งตามข้อหาที่ฟ้องไปนั้นมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
อย่างไรก็ตาม ภายหลังนำคำฟ้องไปยื่นต่อศาลจังหวัดกระบี่แล้ว ทางศาลก็จะพิจารณาคำฟ้องว่า เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อประกอบการพิจารณาประทับรับฟ้อง ซึ่งในวันนี้ศาลจังหวัดกระบี่ ประทับรับฟ้องแล้ว หลังจากนี้ ทางศาลก็จะนัดพร้อมให้ตัวผู้ต้องหาทั้งหมดหรือตัวจำเลย ซึ่งอยู่ในการควบคุมของศาลมารับฟังคำฟ้อง และให้การต่อศาล ซึ่งจากนี้ศาลก็กำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ และจำเลยต่อไป
จากกรณีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนสังหาร นายวรยุทธ สังหลัง อายุ 46 ปี หรือผู้ใหญ่บัต ซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านเขางาม ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เสียชีวิตพร้อมลูกเมีย และญาติรวม 8 ศพ และบาดเจ็บอีก 3 คน เหตุเกิดภายในบ้านพักเลขที่ 14/3 ม.1ต.บ้านกลาง เมื่อวันที่ 10 ก.ค.60 ที่ผ่านมา สร้างความสะเทือนขวัญแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก ต่อมา เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัว นายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต บ้านนบวงศ์สกุล อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุพร้อมพวกรวม 8 คน หลังเกิดเหตุได้เพียง 5 วัน โดยในชั้นสอบสวนนายซุริก์ฟัต ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนวางแผนก่อเหตุ เนื่องจากมีความขัดแย้งกับ นายวรยุทธ เรื่องการขายฝากที่ดิน และมีการขู่ฆ่ากันหลายครั้ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะรวบรวมสำนวนในคดีพร้อมพยานหลักฐานส่งให้อัยการจังหวัดกระบี่ พิจารณาส่งฟ้องศาล เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (20 ก.ย.) นายพิเชษฐ์ เชาว์กิจค้า อัยการจังหวัดกระบี่ พร้อมคณะทำงานพิจารณาสำนวนในคดีของสำนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ ได้นำเอกสารคำฟ้องไปยื่นต่อศาลจังหวัดกระบี่ ขณะที่ทางศาลจังหวัดกระบี่ ได้เบิกตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ประกอบด้วย
นายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต บ้านนบวงศ์สกุล อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 นายคมสรรค์ หรือม่อน เวียงนนท์ อายุ 41 ปี นายอับดุลเลาะ หรือเลาะ ดอเลาะ อายุ 30 ปี นายอรุณ หรือกี่ ทองคำ อายุ 29 ปี นายประจักษ์ หรือจักษ์ บุญทอย อายุ 37 ปี นายธนชัย หรือโกบ จำนอง 41 ปี นายธวัชชัย หรือชล บุญคง อายุ 38 ปี และ น.ส.ชลิดา หรือดา สังขโชติ อายุ 41 ปี ที่อยู่ระหว่างควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำจังหวัดกระบี่ มารับฟังคำฟ้องเพื่อดำเนินการตามกระบวนการของศาลต่อไป
นายพิเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสำนวนของพนักงานสอบสวนในคดี จำนวน 2,382 หน้า พร้อมพยานหลักฐานที่ส่งมาที่พนักงานอัยการพิจารณาแล้วนั้น พบว่า มีความรอบคอบรัดกุม รวมทั้งพยานหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่ก็มีความแน่นหนา เชื่อว่าสามารถนำสืบเพื่อพิสูจน์ในชั้นศาลได้ว่า ตัวผู้ต้องหาได้กระทำผิดตามที่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาจริง ซึ่งข้อกล่าวหา หลักๆ ในคดีนี้ ประกอบด้วย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นฯ ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นฯ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นฯ ปล้นทรัพย์ฯ ซ่องโจรฯ ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน เป็นต้น ซึ่งตามข้อหาที่ฟ้องไปนั้นมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
อย่างไรก็ตาม ภายหลังนำคำฟ้องไปยื่นต่อศาลจังหวัดกระบี่แล้ว ทางศาลก็จะพิจารณาคำฟ้องว่า เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อประกอบการพิจารณาประทับรับฟ้อง ซึ่งในวันนี้ศาลจังหวัดกระบี่ ประทับรับฟ้องแล้ว หลังจากนี้ ทางศาลก็จะนัดพร้อมให้ตัวผู้ต้องหาทั้งหมดหรือตัวจำเลย ซึ่งอยู่ในการควบคุมของศาลมารับฟังคำฟ้อง และให้การต่อศาล ซึ่งจากนี้ศาลก็กำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ และจำเลยต่อไป